ราศีจับ 'หัวหน้าพรรคป้ายแดง' รวยน้ำใจพึ่งได้ โดนใจนักการเมือง?

ย้อนดูศึกเลือกตั้งลำปางที่เพิ่งผ่านไป แม้คู่แข่งที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมอย่าง “พรรคเพื่อไทย” ไม่ลงสนามรักษาแชมป์ แต่ไม่ทำให้ผู้ท้าชิงชะล่าใจแกนนำพลังประชารัฐ เพราะบางคนถึงขนาดข้ามโซน ลงพื้นที่ ฝังตัวเพื่อช่วยพรรค ร่วม 2 เดือน ก่อนคะแนนที่ออกมา จะชนะอย่างขาดลอย 

การลงแรงของพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ได้รับผลกลับมาอย่างคุ้มค่า และยิ่งช่วยให้เสถียรภาพของรัฐบาลในสภาฯเข้มแข็งมากขึ้นไปอีก

การก้าวขึ้นมาคุม “พลังประชารัฐ” เต็มตัวของ “บิ๊กป้อม” ในช่วงที่รัฐบาล “ครบ 1 ปี” เริ่มเห็นผล นอกเหนือไปจากผลการเลือกตั้งซ่อมแล้ว ยังส่งผลต่อขวัญและกำลังใจคนในพรรคอีกไม่น้อย หลังจากก่อนหน้านี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความขัดแย้ง

ไม่เพียงแต่ทำให้สถานการณ์ในพรรคดีขึ้น แม้แต่ ส.ส.นอกพรรค จากฝ่ายค้านหลายคนก็อยากย้ายข้างมาอยู่ด้วยให้รู้แล้วรู้รอด หลังจากท่อน้ำเลี้ยงของ “นายใหญ่” น้ำไม่แรงเหมือนแต่ก่อน 

สถานะของบางคนจึงมีชื่ออยู่กับ “ฝ่ายค้าน” แต่ใจอยู่ “ฝ่ายรัฐบาล” อย่างไรอย่างนั้น แต่การจะมีพฤติกรรมแหกคอก สวนมติพรรคมาสนับสนุนรัฐบาลแบบโต้งๆ เพื่อให้ถูกขับออกจากพรรค เปิดทางไปสังกัดพรรคใหม่ ก็ดูจะได้ไม่คุ้มเสีย กับคำว่า “งูเห่า” ที่จะถูกตีตราไปจนตาย

ลำพังจึงทำได้แต่ภาวนาให้นายกฯ ยุบสภาเลือกตั้งใหม่เร็วๆ จะได้แต่งเนื้อแต่งตัวรอสวมเสื้อ “พลังประชารัฐ” และเสนอชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หรือ “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กป้อม” แทน “นายใหญ่” 

เพราะใน “เพื่อไทย” นาทีนี้ต้องบอกว่า แตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ละมุ้งจูนกันไม่ติด กะพร่องกะแพร่งกันมานานเรื้อรัง บางคนตัดใจออกไปตั้งกลุ่มการเมืองใหม่ และถ้าไม่มีอะไรผิดคาด ก็คงฟอร์มตัว ตั้งเป็นพรรคการเมืองต่อไป

แต่ถามว่า การจะ “ยุบสภา” ในช่วงนี้ ตามที่บางคนคิดฝัน คงเป็นไปไม่ได้ หลายอย่างยังต้องจัดการแก้ปัญหา อย่าง “โควิด-19” การขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากเงินกู้ 1 ล้านล้านก่อน 

ดังนั้น หลายอย่างยังต้องเตรียมความพร้อม เตรียมกระสุน ตุนเสบียงกันอีกนาน อย่างน้อย 2 ปี เว้นแต่รัฐบาลจะถูกต้อนจนเสียทรง และไปไม่รอด ถึงจะเลือกการยุบสภาฯ เพื่อชิงจังหวะกลับมาชนะเหนือคู่แข่งอีกครั้ง

 

สูตรนี้ นายกฯ อาจเคยได้ยินข้อเสนอจากใครบางคนมาบ้างแล้วว่า ถ้า “ยุบสภา” จะมี ส.ส.จากพรรคคู่แข่งในปัจจุบัน ในหลายจังหวัดพาเหรดย้ายมาอยู่ด้วย พร้อมการันตีว่า จะชนะเลือกตั้งแน่นอน แต่ไม่รู้ไอเดียนี้ “บิ๊กตู่” จะว่าอย่างไร

วันนี้พลังประชารัฐในแบบฉบับของ “บิ๊กป้อม” ต้องถือเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” ที่สมบูรณ์ของนักการเมือง แถมกำลังเนื้อหอมสุดๆ ใครก็อยากมาร่วมวงด้วย แถมเป็น “รัฐบาล” ที่มีปัจจัยหนุนรอบด้าน และตามสไตล์ของ “ลุงป้อม” หรือ “นายป้อม” ที่คนในพรรคเรียกขาน จัดว่ามากบารมีคนหนึ่งในทางการเมืองวันนี้

เหมือนที่ “สิระ เจนจาคะ” เคยระบุว่า “ท่านเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้ ส.ส. เป็นที่พึ่ง ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ไปปรึกษาลุงป้อม ไม่เคยมีสักครั้งที่จะไม่ช่วย”

ต่อจากนี้ อะไรๆ คงราบรื่น ทุกคนในพลังประชารัฐน่าจะได้รับการดูแลอย่างถ้วนหน้า อิ่มหนำสำราญ สามัคคีกลมเกลียว เว้นแต่ว่า วันใดหากบางกลุ่มก๊วนไม่พอใจ ผลประโยชน์ไม่ลงตัว ก็คงจะวุ่นวายกันตามระเบียบ 

มีเค้าว่า “แกนนำบางคน” ก็ไม่ค่อยแฮปปี้กับตำแหน่ง หรือภารกิจที่ “บิ๊กป้อม” มอบหมาย โดยมองว่า บางกลุ่มในพรรคถูกเอาใจด้วยการให้ตำแหน่งสำคัญมากเกินไป เพราะผู้ใหญ่ในพรรคกลัวว่าจะก่อหวอด สร้างแรงกระเพื่อมให้ปั่นป่วนเหมือนที่เคยเป็นมา

แต่ถึงที่สุดแล้ว เวลานี้พรรคพลังประชารัฐ มีแต่ความชื่นมื่นมากกว่าความหม่นหมอง เหลือแต่เพียงให้รัฐบาลเก็บแต้มความนิยมจากประชาชนให้มากที่สุด เพื่อรอลงสนาม และกลับมาหายใจด้วยจมูกตัวเองอีกครั้ง