CK - ถือ

CK - ถือ

มุ่งจะคว้างานรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก

Event

Analyst meeting.

Impact

คาดว่าผลประกอบการ 2H63 จะดีขึ้นจากรายได้ equity income ที่เพิ่มขึ้นจาก BEM และ CKP

เราคาดว่าผลประกอบการ 2H63 จะดีขึ้น HoH เนื่องจาก i) จำนวนผู้โดยสาร และปริมาณการจราจรบนทางด่วนฟื้นตัวขึ้นหลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือนเมษายน 2563 และมีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown เฟสที่ 4 รวมถึงเข้าสู่ช่วงเปิดเทอม ii) เป็นช่วงฤดูฝนของ CK Power (CKP.BK/CKP TB)*

การเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก (งานโยธา 9 หมื่นล้านบาท) เป็นโครงการหลักในปี 2563

เราคาดว่าโครงการนี้น่าจะออก TOR ได้ในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2563 โดย CK จะผนึกพันธมิตรกับ Bangkok Expressway and Metro (BEM.BK/BEM TB)* เพื่อเป็นผู้รับเหมาหลักของโครงการนี้ ทั้งนี้ เนื่องจาก backlog ของบริษัทอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบสิบปีที่ 3.9 หมื่นล้านบาท (รวมโครงการศูนย์วิจัยจุฬาภรณ์4 พันล้านบาท) ดังนั้น backlog ของโครงการใหม่ (1.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นงานโยธา 9 หมื่นล้านบาท และงาน M&E 3 หมื่นล้านบาท) จะทำให้ backlog ของ CK เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันถึงสี่เท่า ทั้งนี้จากผลงานการก่อสร้างรถฟฟ้ าใต้ดิน (รฟม. สายสีน้ำเงินและส้ม) ทำให้บริษัทได้เปรียบคู่แข่งในการยื่นประมูล แต่อย่างไรก็ตาม CK อาจจะต้องยอมเฉือน margin ของโครงการนี้เพื่อให้ได้ backlog ใหม่เพิ่มมา

อยูระหว่างการเจรจา Backlog โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน

กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ได้ใน 2H63 เราคาดว่ากระทรวงจะเจารจา backlog ใหม่กับ consortium ที่ประมูลได้ และมีความชัดเจนใน 4Q63 เราคาดว่าบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จาก backlog 4 หมื่นล้านบาทของโครงการนี้ในปี 2564

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ถือ และให้ราคาเป้าหมาย SOTP 1H64 ที่ 26.50 บาท เราคิดว่าการเปิดประมูลรถไฟฟ้ารฟม. สายส้มตะวันตกจะเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น ทั้งนี้ หากว่าสามารถออก TOR ได้ในเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2563 เราคาดว่าจะบริษัทจะใช้เวลาเตรียมยื่นประมูลประมาณสามเดือน
และจะใช้เวลาประเมินซองประมูลอีกสามเดือน ดังนั้น เราคาดว่าน่าจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลได้ในปลายปี 2563 หรือใน 1H64

Risks

การก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด ขาดแคลนแรงงาน และมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ