ศบค. เลื่อนเคาะคลายล็อกเฟส 4 เผย 'บางแสน' ทำสะดุด

ศบค. เลื่อนเคาะคลายล็อกเฟส 4 เผย 'บางแสน' ทำสะดุด

มาตรการคลายล็อกเฟส 4 เคาะสัปดาห์หน้า โฆษก ศบค. เผยนายกฯ วางแนวทางผ่อนปรนกิจการตามมาตรการระยะที่ 4 ยึดหลักกิจการใดพร้อมก็ให้เปิดก่อน ผู้ขอเปิดต้องตอบคำถาม-ชี้แจงชัดเจน

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ใน State Quarantine “วิษณุ” เผยคนแห่เที่ยวบางแสน กระทบแผน พ.ร.ก.-คลายล็อก

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงถึงความคืบหน้าในการพิจารณาผ่อนปรนมาตรการระยะที่4 ทั้งงานอีเวนท์ คอนเสิร์ต ผับ บาร์ อาบอบนวดว่า โดยหลักการของนายกรัฐมนตรีกิจการใดที่มีความพร้อมก็เปิดก่อน

ซึ่งทางคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค ที่มีพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)เป็นประธานกำลังประชุมศึกษาและรับฟังข้อมูล หากผู้เกี่ยวข้องสามารถตอบคำถาม หรือชี้แจงได้อย่างชัดเจนเข้าใจและรู้เรื่องจะนำเสนอต่อต่อที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ต่อไปในสัปดาห์หน้า

“ถ้าข้อมูลยังไม่ชัดเจนก็ให้ผู้ประกอบการส่งข้อเสนอซึ่งเป็นมาตรการดูแลควบคุมโรคมาจนกว่าจะเกิดความมั่นใจและให้หลายภาคส่วนพิจารณาร่วมกัน เร็วๆนี้คงได้ข่าวดีกัน”นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ประจำวันระบุว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย รวมยอดสะสม 3,102 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ เสียชีวิตรวม 58 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 3 ราย รวมรักษาหาย 2,971 ราย รักษาตัวอยู่ 73 ราย ผู้ป่วยยืนยันจำแนกตามพื้นที่รักษา แบ่งเป็น กรุงเทพฯ นนทบุรี 1,708 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 423 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย และ ภาคใต้ 743 ราย

โดยผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย ที่พบเป็นชายไทยอายุ 45 ปี อาชีพรับจ้างทำงานในแคมป์โรงงานเอกชน กลับมาถึงไทย เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2563 พักใน State Quarantine ในกทม. ตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 26 พ.ค. ไม่พบเชื้อ และ ตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 3 มิ.ย ช่วงก่อนกลับพบเชื้อโดยไม่มีอาการ ขณะนี้รับการรักษาที่ในโรงพยาบาล กทม. ทำให้ตัวเลขของประเทศต้นทางที่คนไทยกลับมาจากประเทศคูเวต 174 คน พบผู้ป่วยยืนยัน 31 คน +1 เท่ากับ 32 ราย สัดส่วนของการป่วย ตามต้นทาง พุ่งขึ้นมา 17.82%

สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในสถานกักกันโรคของรัฐที่ส่วนกลางและจังหวัด (State and Local Quarantine) ตั้งแต่ ก.พ.-5 มิ.ย.2563 มีผู้เข้ากักกันโรคทั้งหมด 31,917 คน พบผู้ป่วยในสถานกักกันโรค ฯ จำนวน 165 ราย คิดเป็นอัตราผู้ป่วย 0.52% เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง สัดส่วน 6.5 : 1 ได้แก่ ชาย 143 คน หญิง 22 คน อายุเฉลี่ย 39 ปี ต่ำสุด 15 ปี สูงสุด 77 ปี สัญชาติไทย 98.78% อเมริกา 0.61 % และอังกฤษ 0.61%

ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ มีผู้ติดเชื้อรวม 6,698,370 ราย อาการหนัก 55,460 ราย รักษาหาย 3,244,574 ราย เสียชีวิต 393,142 ราย โดย 10 อันดับ ผู้ป่วยสูงที่สุด อันดับที่ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา บราซิล รัสเซีย สเปน อังกฤษ อิตาลี อินเดีย เยอรมนี เปรู และตุรกี ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 80

ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศโฆษก ศบค. กล่าวว่า จากงานวิจัยล่าสุดจากประเทศจีนซึ่งศึกษาจากผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 78 ราย จากการระบาดในเมื่ออู่ฮั่น เปรียบเทียบผู้ป่วย 2 กลุ่ม กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ที่แสดงอาการ 45 ราย และผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ 33 ราย พบว่า ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ จะมีอายุเฉลี่ย 37 ปี ส่วนผู้ป่วยที่แสดงอาการมีอายุเฉลี่ย 56 ปี โดยพบว่า ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ แม้ภายนอกจะดูเหมือนปกติ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ นาน 12 วัน (เฉลี่ย 8 วัน) ส่วนผู้ป่วยที่แสดงอาการ มีระยะเวลาการแพร่เชื้อสูงสุด 24 วัน (เฉลี่ย 19 วัน)

อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ 33 ราย ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต ส่วนผู้ป่วยที่แสดงอาการ 45 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยการวิจัยนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัยอื่นๆ ที่พบว่า ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ จะมีจำนวนประมาณ 40% ของผู้ป่วยทั้งหมด

สำหรับ ภาพรวมการใช้งานแพลตฟอร์ม“ไทยชนะ”ณ วันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีจำนวนกิจการ/กิจกรรม 156,982 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 21,524,238 คน จำนวนการดาวน์โหลดแอพไทยชนะ 188,530 คน ขณะที่การตรวจกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลาย ในวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา จำนวน 20,110 ร้าน ปฏิบัติตามมาตรการ 20,088 ร้าน ปฏิบัติไม่ครบ 22 ร้าน ไม่ปฏิบัติ 0 ร้าน

ทั้งนี้ ในส่วนของประเด็นการเปิดสนามบินภูเก็ต โฆษก ศบค. อธิบายว่า ศบค. ให้ความสำคัญมากเพราะมาตรการการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดในการผ่อนคลายระยะที่ 3 เนื่องจากสนามบินเป็นเรื่องของการโดยสารคนจำนวนมาก มีความแออัดในพื้นที่ ดังนั้น จึงมีหลักการพิจารณาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 ท่าอากาศยานที่อยู่นอกสังกัด AOT และไม่พบประวัติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาภายใน 14 วันที่ผ่านมา มีระบบควบคุมที่ดี สามารถเปิดได้ กลุ่มที่ 2 สังกัด AOT และอยู่ในพื้นที่มีประวัติ แพร่ระบาด มีข้อมูลผู้ป่วยประปราย 14 วัน มีระบบควบคุมโรคที่ดี สามารถเปิดได้ กลุ่มที่ 3 สังกัด AOT อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวนมาก ระบบควบคุมโรคยังต้องมีการประเมิน

ส่วน จ.ภูเก็ต ข้อมูลล่าสุดของ ณ วันที่ 25 พ.ค. ยังมีการติดเชื้อในพื้นที่ จึงต้องใช้เวลารอคอย หากไม่มีเลย ยาวไปถึงมีการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ และ จ.ภูเก็ต มีการดูแลตัวเองอย่างดี มีตัวเลขที่นาพึงพอใจ สนามบินได้เปิดแน่นอน

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณากฎหมายรองรับหลังการยกเลิก พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินการผ่อนคลายระยะที่ 3 และระยะที่ 4 อย่าเพิ่งไปพูดถึงคำว่า แทน เพราะตอนนี้ยังไม่เลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจอเหตุการณ์คนแออัดที่ชายหาดบางแสน “ทำเอาสะอึกเลย”

ส่วนการพิจารณาวันหยุดแทนวันสงกรานต์ ตนไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน ใครเป็นคนปล่อยคนแรก ยืนยันเรื่องนี้ไม่เคยมีการพูดกันเลยเหมือนที่นายกฯได้บอกไปแล้ว และยืนยันว่าในระดับคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด -19 ก็ไม่ได้พูดคุยกัน เอาแค่วันหยุดติดต่อกัน 4 วัน คือ วันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา วันที่ 4-7 ก.ค.เอาให้อยู่รอดปลอดภัยก่อน

“วันหยุดชดเชยวันสงกรานต์เรายังไม่ได้คิด และไม่จำเป็นต้องหยุดต่อเนื่องกัน อาจจะให้หยุดแบบผ่อนส่งก็ได้ ซึ่งความจริงวันหยุดสงกรานต์มีเพียงแค่ 3 วัน คือวันที่ 13-15 เม.ย. ไม่ใช่ 5 วัน เพราะตัดวันเสาร์-อาทิตย์ ที่เป็นวันหยุดอยู่แล้วออกไป ดังนั้นเมื่อเหลือ 3 วันก็ไม่ยากในการชดเชย อาจจะหยุดทิ้งช่วงกันให้ได้ครบ 3 วันก็ได้ เช่นสัปดาห์ละ 1 วัน” นายวิษณุ กล่าว