IP - ซื้อ

IP - ซื้อ

กำไร 1Q63 เติบโต 22%QoQ และ 729%YoY และคงประมาณการตามเดิม

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • รายงานกำไร 1Q63 ที่ 13.9 ลบ.+22%QoQ และ +729%YoY : รายได้ 1Q62 เติบโต 21%YoY สู่ 99 ลบ.โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย และผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่เติบโตเนื่องจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่ม B+ ขึ้นไปทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 60.4% ในไตรมาสก่อนสู่ 63.2% เนื่องจากยกเลิกจำหน่ายสินค้าให้กับ NABOTA ตั้งแต่ 3Q62 ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัท ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวขึ้นจาก 42.3% ในไตรมาสก่อนสู่ 45.2% เมื่อพิจารณาเป็นจำนวนเงินปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 43.9 ลบ. ส่งผลให้บริษัทรายงานกำไร 1Q63 ที่ 13.9 ลบ. ซึ่งคิดเป็น 24% ของประมาณการ
  • คาดผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 63 เติบโตต่อเนื่อง : จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัทเนื่องจากผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นหนุนยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัยเนื่องจากในช่วงนี้ผู้บริโภคต้องการอาหารเสริมเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันและบำรุงร่างกายเพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อ COVID-19 โดยผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายได้เพิ่มขึ้นใน 1Q63 ได้แก่ วิตามินรวม วิตามินกระตุ้นภูมิคุ้มกัน แอลกอฮอล์ล้างมือซึ่งคาดว่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่องไปถึง 2Q63 ขณะที่ 3Q63 บริษัทจะออกผลิตภัณ์ฑ์ใหม่ 2 ผลิตภัณฑ์ Proimo เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน และ Prolivo สารอาหารสำหรับบำรุงตับซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ที่บริโภคแอลกอฮอล์เป็นอย่างดี
  • คงประมาณการกำไรปี 2563 ที่ 57.5 ลบ. +32%YoY : ฝ่ายวิจัยคงประมาณการรายได้ปี 2563 ที่ 464 ลบ. +25%YoY โดยรายได้ 1Q63 คิดเป็น 21% ของประมาณการแต่เราคาดว่าการแพร่ระบาด COVID-19 เป็นปัจจัยหนุนต่อยอดขายของบริษัทเนื่องจากผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีการซื้อวิตามิน และอาหารเสริมเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ด้านอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะสูงกว่า 60% เนื่องจากบริษัทเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 42.5% สู่ 44.5% เนื่องจากมีการโฆษณาสินค้าใหม่ 5-6 ผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดในช่วง 2Q63-3Q63 เมื่อพิจารณาเป็นตัวเงินปรับตัวขึ้นจาก 156 ล้านบาทในปี 2562 สู่ 206 ล้านบาทในปี 2563 ส่งผลให้เราคาดว่าปี 2563 จะมีกำไรราว 57.5 ล้านบาท +32%YoY ขณะที่ปี 2564 เราคาดว่ารายได้จะเติบโตสู่ 557 ล้านบาท +20%YoY จากการรับรู้รายได้จากสินค้าที่เปิดตัวในปี 2563 เต็มปีและมีการออกสินค้าใหม่ในปี 2564 อย่างต่อเนื่อง และคาดกำไรราว 72.4 ล้านบาท +26%YoY
  • คงคำแนะนำ ซื้อพร้อมปรับเพิ่มราคาเหมาะสมสู่ 8.10 บาท: ฝ่ายวิจัยเปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่าจาก Prospective P/E Ratio เป็น PEG เพื่อให้สะท้อนถึงการเติบโตที่โดดเด่นของบริษัท โดยเราคาดว่าบริษัทจะมีการเติบโตเฉลี่ย 29% ใน 2 ปีต่อจากนี้และคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับปี 2563 ที่ 0.28 บาทต่อหุ้นได้ราคาเหมาะสม 8.10 บาทต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 5.60 บาทต่อหุ้น ราคาที่ประเมินได้สูงกว่าราคาปิดล่าสุดจึงคงคำแนะนำ ซื้อ

ความเสี่ยง : การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ล้าช้า

              : เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่าย