'ลดดอกเบี้ย' เยียวยาเศรษฐกิจ

'ลดดอกเบี้ย' เยียวยาเศรษฐกิจ

ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไทยและโลกหดตัวรุนแรง การผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วยการหั่นดอกเบี้ยลงมา การที่เร่งเยียวยาทุกกลุ่มให้ทั่วถึง จะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ นับเป็นการตัดสินในที่ถูกต้องถูกเวลา และมองเห็นความเดือดร้อนภาคธุรกิจ ประชาชนอย่างจริงใจ

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 4 ต่อ 3 ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% หรือจากระดับ 0.75% เหลือ 0.50% ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ท่ามกลางมหันตภัยโควิด-19 ยังคงพ่นพิษอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กนง.ให้เหตุผลเศรษฐกิจไทยปี 2563 มีแนวโน้มหดตัวกว่าประมาณการเดิมตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่หดตัวรุนแรงกว่าที่คาด ปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มติดลบกว่าที่ประเมินไว้ รวมถึงเสถียรภาพระบบการเงินที่กำลังเปราะบางมากขึ้น

โลกวันนี้ มีข่าวการปลดพนักงานของบริษัทขนาดใหญ่เกิดขึ้นแทบทุกวัน ล่าสุดบริษัท โรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตยานยนต์และเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน ประกาศแผนลดต้นทุนโรงงาน พร้อมปรับลดพนักงานเกือบ 1 หมื่นตำแหน่ง จากที่มี 5 หมื่นตำแหน่งทั่วโลก เป็นการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดขององค์กรควบคู่ไปกับความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงาน กลายเป็นภาระของรัฐบาลทุกประเทศ ไม่เว้นประเทศไทย มีความจำเป็นที่ภาครัฐต้องออกมาตรการเยียวยา บรรเทาผลกระทบเบื้องต้น ก่อนหาทางช่วยเหลือในระยะยาว

ในประเทศไทยมีการประเมินว่าจะมีคนตกงานประมาณ 5 ล้านคน เป็นผู้ใช้แรงงานภาคการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิดมากที่สุดอย่างน้อย 3 ล้านคน กลุ่มนี้กว่าจะฟื้นตัวต้องใช้เวลานานกว่า 6 เดือน ทั้งธุรกิจการบิน โรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิงและกีฬา เนื่องจากแม้ผ่านช่วงวิกฤตโควิดไปแล้วยังได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมผู้คนที่ปรับเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ขณะที่แรงงานภาคอื่นๆ ตกงานลดหลั่นกันไป ที่น่าเป็นห่วงข้อมูลของศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ระบุครัวเรือนไทยประมาณ 60% จะมีเงินไม่พอใช้จ่ายเกิน 3 เดือน

ข้อมูลดังกล่าวสอดรับกับความเคลื่อนไหวของกระทรวงการคลัง ผู้ดำเนินนโยบายด้านการคลัง วันนี้กำลังรุกหนักในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม ผู้บริหารได้สั่งการให้มีการช่วยเหลือในกลุ่ม “ตกหล่น” โดยวางแผนงบประมาณการเยียวยาต่อจากกลุ่มเกษตรกร โดยประสานงานกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ไปจัดทำแนวทางช่วยเหลือกลุ่มตกหล่น คาดว่าจะใช้เงิน 39,000 ล้านบาท สำหรับนิยามของคำว่าคนกลุ่มตกหล่นนี้ ได้แก่ กลุ่มผู้พิการ คนไร้บ้าน คนชายขอบ เป็นต้น

เราเห็นด้วยกับการทำงานสอดประสานระหว่างธนาคารกลาง โดย กนง.กับกระทรวงการคลัง การผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วยการหั่นดอกเบี้ยลงมา การที่เร่งเยียวยาทุกกลุ่มให้ทั่วถึง จะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ ถือเป็นการตัดสินในที่ถูกต้องถูกเวลา มองเห็นความเดือดร้อนของภาคธุรกิจและประชาชนอย่างจริงใจ สามารถลดต้นทุนทางการเงินและภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไปได้ระดับหนึ่ง จากนี้ไปได้แต่หวังว่าธนาคารพาณิชย์จะรับลูก โดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงทันที เรากำลังอยู่ในวิกฤติ ประเทศจึงต้องการผู้เสียสละที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก