ติดตามประชุม OPEC

ติดตามประชุม OPEC

ควรระวังแรงขายรอบสั้นตามสัญญาณเทคนิคที่จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลงได้ จึงควรเข้าลงทุนแบบเก็งกำไร

ตลาดหุ้นวานนี้

SET วานนี้อ่อนตัวลงปิดที่ 1,205 จุด (-9.18 จุด) หรือ -0.76% ด้วย Volume ซื้อขาย 9.3 หมื่นล้านบาท จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีพุ่งขึ้นแรงเมื่อวันก่อนตอบรับยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัส Covid-19 ชะลอตัวลงในหลายประเทศ ประกอบกับมีแรงขายกลุ่มพลังงานและปิโตรฯตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงหลัง EIA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้ลง  ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิมากถึง 7,907 ล้านบาท  และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 5,070 ล้านบาท รวมถึง Net Short TFEX 11,546 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นบวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,220 – 1,230 จุด เนื่องจากได้แรงหนุนราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นตามคาดการณ์การประชุมกลุ่ม OPEC และพันธมิตรในวันนี้ (8 เม.ย.) จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง (คาด 10 – 15 ล้านบาร์เรล/วัน) ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ ประกอบกับรายงานการประชุมเฟดเผยว่าจะยังคงตรึงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปจนกว่าจะผ่านสถานการณ์ Covid-19  นอกจากนี้อัตราการติดเชื้อไวรัส Covid-19 ที่เริ่มชะลอตัวลงในยุโรปและสหรัฐ รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยยังคงเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ควรระวังแรงขายรอบสั้นตามสัญญาณเทคนิคที่จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลงได้ จึงควรเข้าลงทุนแบบเก็งกำไร

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มพลังงานและปิโตร (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC, IVL) คาดการประชุมกลุ่มโอเปกและพันธมิตรจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง
  • กลุ่มค้าปลีก (CRC, HMPRO, GLOBAL) และกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม (AOT, CENTEL, MINT, ERW) ได้อานิสงส์ยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ชะลอตัวลง
  • กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ค่อนข้างน้อย ICT (ADVANC, INTUCH, DTAC) และกลุ่มอาหาร (CPF)

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CPALL (ปิด 62.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 88 บาท) ได้ Sentiment บวกภาครัฐเสนอให้เพิ่มจำนวนผู้ที่ได้รับการเยียวยาจากผลกระทบของไวรัส Covid 19 จำนวน 5,000 บาทต่อราย เพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านรายเป็น 9 ล้านราย และขยายเวลาการเยียวยาเพิ่มขึ้นจาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน และ CPALL ยังได้ประโยชน์จากมาตรการคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า 21 ล้านครัวเรือนมูลค่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งประชาชนเริ่มทยอยได้รับเงินคืนแล้ว
  • MINT (ปิด 18.8 ซื้อ/เป้า 32) เก็งกำไรได้ Sentiment บวกจากแนวโน้มผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในยุโรปเริ่มลดลง โดย MINT มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศและในไทยคิดเป็น 50:50 ซึ่งรายได้จากต่างประเทศส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจโรงแรมในยุโรป คาด MINT น่าจะมีแรงเก็งกำไรคล้ายกับหุ้นสันทนาการและท่องเที่ยวในต่างประเทศทีทยอยปรับตัวขึ้น

บทวิเคราะห์วันนี้

AP (ปิด 4.7 ซื้อ/เป้า 8.5), IVL (ปิด 24.2 ซื้อ/เป้า 38)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 780 จุด คาดหวังการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในสหรัฐเริ่มลดลง: ดัชนีดาวโจนส์ยังปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงโดยวานนี้ปรับตัวขึ้นอีก 780 จุด (+3.44%) ปิดที่ 23,434 จุด เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในสหรัฐจะเริ่มชะลอตัวลง หลังจากที่นักวิชาการด้านสาธารณสุขของสหรัฐออกมาระบุว่าวิกฤติ Covid-19 ในสหรัฐจะค่อยๆดีขึ้นหลังผ่านพ้นสัปดาห์นี้ไป ทั้งนี้เป็นเพราะตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีขึ้นในสหรัฐต่ำกว่าที่เคยมีการคาดการณ์กันไว้ สอดคล้องกับความเห็นของ นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของสหรัฐ ระบุว่า มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่รัฐนิวยอร์กประกาศใช้นั้นได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง
  • (+/-) Fed minute คณะกรรมการเฟดยืนยันตึงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ไปจนกว่าจะผ่านพ้นจากวิกฤติ Covid-19: Fed เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยรายละเอียดส่วนใหญ่คล้ายกับถ้อยแถลงของเฟดหลังการประชุม โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ตึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปจนกว่าสหรัฐจะผ่านพ้นจากวิกฤติ Covid-19 ซึ่งความเห็นนี้สร้างความหวังเชิงบวกให้กับนักลงทุนว่า Fed จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับมาฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้
  • (+) ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมายืนเหนือระดับ 25$/bbl ได้อีกครั้ง หลังจากสหรัฐผลิตน้ำมันดิบลดลง และคาดหวังกลุ่ม OPEC+ จะลดกำลังการผลิต: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.46 ดอลลาร์ (+6.2%) ปิดที่ 25.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดตอบรับรายงานตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลง 600,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 12.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วยคลายกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด นอกจากนี้ตลาดยังมีความหวังบวกว่าการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (Video Conference) จะสามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมันได้ (ต้องดูว่าหาก OPEC+ ลดกำลังการผลิตจะลดเท่าไหร่มากหรือน้อยกว่าที่ โดนัลทรัมป์ คาดการณไว้ที่ระดับ 10-15 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ปัจจัยนี้น่าจะหนุนให้หุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมันซึ่งถูกเทขายเมื่อวานกลับมาฟื้นตัว (ระหว่างวันแนะนำดูราคาน้ำมันดิบ Future ประกอบการตัดสินใจ)