สอท. แนะปรับเกณฑ์ โรงไฟฟ้าชุมชนหันซื้อจากลุ่มเชื้อเพลิงการเกษตร

นายธีระพล ติรวศิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2563 กลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม ได้ทำหนังสือถึง นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)และโฆษก กกพ. โดยมีสาระสำคัญ เกี่ยวกับร่างระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่ทางสำนักงาน กกพ. เปิดรับฟังความเห็นทางเว็บไซต์ มาตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา

 โดยมองว่า ยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดหลักเกณฑ์การพิจารณาโครงการที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม ส.อ.ท. ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการด้านการจัดการมลพิษ ของเสีย และวัสดุเหลือใช้ในประเทศไทย จึงเสนอให้ กกพ. จัดลำดับความสำคัญในการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ที่สามารถใช้ชีวมวลที่ถูกเผาทิ้งในพื้นที่เปิด (Open Burning) ซึ่งก่อปัญหาด้านฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทย เป็นลำดับแรก ก่อนที่จะพิจารณาประเภทเชื้อเพลิงอื่นๆ เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นกลไกผลักดันให้เกิดการเก็บรวบรวมชีวมวลให้มีความคุ้มค่า และช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างได้ผล บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของรัฐบาลได้

อีกทั้ง วัตถุประสงค์ในด้านการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทาง กกพ.ก็ควรจะมีการจัดลำดับความสำคัญ ในการรับชีวมวลที่เป็นผลผลิตจากชุมชน ก่อนชีวมวลที่เกิดจากโรงงานแปรรูป 

" การใช้ชีวมวลทางการเกษตรก่อน ชีวมวลที่มาจากโรงงาน จะช่วยแก้ปัญหามลพิษทาอากาศที่ไทยประสบอยู่ในขณะนี้ได้ " 

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก กำหนดไว้ 4 ด้าน ได้แก่ 1.โรงไฟฟ้าชุมชนจะใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก 2.โรงไฟฟ้าชุมชนจะมุ่งช่วยเหลือดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและใช้ประโยชน์จากของเสียจากการเกษตร 3.โรงไฟฟ้าชุมชนจะผลักดันให้ยุทธศาสตร์องค์กรผ่านแนวทางกิจการเพื่อสังคม และ 4.โรงไฟฟ้าชุมชนจะเพิ่มศักยภาพชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

แหลงข่าวกระทรวงพลังงาน  กล่าวว่า  ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารการรับซื้อไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เพื่อพิจารณรายละเอียดเกณฑ์การเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอโรงไฟฟ้าฯประเภทเร่งด่วน หรือ Quick Win จำนวนไม่เกิน 100 เมกะวัตต์ ที่สอดรับกับการที่รัฐบาลได้ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ)ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อกำหนดให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ประกาศการรับซื้อไฟฟ้าให้ได้ตามแผนภายในกลางเดือน เม.ย.หรือ 17 เม.ย.