SCC เล็งส่งบริษัทย่อยเข้าลงทุนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในเวียดนาม

 SCC เล็งส่งบริษัทย่อยเข้าลงทุนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในเวียดนาม

"ปูนซิเมนต์ไทย"แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯบริษัทย่อยอยู่ระหว่างดำเนินการซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วนข้างมากของ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company หรือ SOV ผู้ประกอบธุรกิจบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำจากเยื่อและกระดาษในประเทศเวียดนาม

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC อยู่ระหว่างดำเนินการซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วนข้างมากของ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company หรือ SOVI โดยลงทุนผ่านบริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด หรือ TCG ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นโดย SCGP และ Rengo Company Limited ประเทศญี่ปุ่น ในสัดส่วน 70:30% ตามลำดับ

ทั้งนี้การเข้าซื้อหุ้น SOVI ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Stock Exchange หรือ HOSE) ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ State Securities Commission of Vietnam และ HOSE กำหนด โดยที่ TCG จะส่งหนังสือแจ้งเจตนาในการซื้อหุ้นให้แก่คณะกรรมการของ SOVI เพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น SOVI พิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นที่มีสัดส่วนมากกว่า 25% โดยไม่ต้องทำคำเสนอซื้อกิจการ (Mandatory Tender Offer) และภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น SOVI อนุมัติการซื้อหุ้นดังกล่าวแล้ว TCG และ/หรือบริษัทย่อยที่ตั้งขึ้นใหม่ของ TCG จะเจรจาสัญญาซื้อหุ้น SOVI กับผู้ถือหุ้นที่สนใจขายหุ้น รวมทั้งปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ของสัญญาก่อนจะดำเนินการซื้อหุ้นตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป

โดย SOVI เป็นผู้ผลิตชั้นนำในด้านบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำจากเยื่อและกระดาษ (Fiber-based packaging)มีกำลังการผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก 90,000 ตันต่อปีและมีกำลังการผลิตกล่องลามิเนท (Offset Laminated Packaging) 10,000 ตันต่อปีมีโรงงาน 3 แห่งใกล้นครโฮจิมินห์และมีลูกค้าหลักเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค โดยในปี 2562 SOVI มีรายได้ประมาณ 1,703 พันล้านดอง (ประมาณ 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,350 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีประมาณ 141 พันล้านดอง (ประมาณ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 195 ล้านบาท) และมีสินทรัพย์ 905 พันล้านดอง (ประมาณ 39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,249 ล้านบาท)

ขณะที่ SCGP เป็นผู้นำด้านการให้บริการบรรจุภัณฑ์ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน นำเสนอบริการบรรจุภัณฑ์เยื่อและกระดาษ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุคุณภาพสูงและพอลิเมอร์(Performance & Polymer packaging) และบริการบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายอื่น ๆ มีฐานการผลิตรวมกว่า 40 แห่งในเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย โดยการลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจปลายน้ำในอาเซียนเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในภูมิภาคอย่างยั่งยืนของ SCGP ซึ่งธุรกรรมนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ SCGP ให้มากยิ่งขึ้นด้วยการบูรณาการธุรกิจภายในเวียดนามและขยายฐานลูกค้าที่เชื่อมโยงถึงผู้บริโภคซึ่งมีการเจริญเติบโตสูง

อย่างไรก็ตามการลงทุนนี้เป็นการเน้นย้ำความมุ่งมั่นของ SCGP ในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในเวียดนามที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ SCGP มีก าลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำจากเยื่อและกระดาษในเวียดนามเพิ่มขึ้นเท่าตัว นอกจากนั้นยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคแบบครบวงจรทั้งในเวียดนามและอาเซียน

ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) และความผันผวนของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ SCGP ได้ติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องและพิจารณาโอกาสการลงทุนที่สำคัญอย่างยิ่งนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว โดยมีความเชื่อมั่นว่าการลงทุนนี้จะช่วยส่งเสริมกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจ และจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคอย่างครบวงจรให้เติบโตในระยะยาว

อนึ่งโครงการลงทุนดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเสนอซื้อหุ้น จึงยังไม่สามารถคำนวณขนาดของรายการตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ได้อย่างชัดเจน แต่จากการประมาณการในเบื้องต้นธุรกรรมนี้เมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการเข้าทำรายการนี้เมื่อเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCC สิ้นสุด ณ วันที่31 ธันวาคม 2562ไม่ถึงร้อยละ 15 ของสินทรัพย์รวม และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน