"Bank" Sector (3 เม.ย.63)

"Bank" Sector (3 เม.ย.63)

ประมาณกำไร 1Q63F - วิ่งหาจุดต่ำสุด

Event

ประมาณการ 1Q63F

Impact

NPL – แรงกดดันลดลงเพราะมีการคลายเกณฑ์การจัดชั้นสินเชื่อ

ธปท. ออกมาตรการสำคัญที่ช่วยลด NPL และลดแรงกดดันในการกันสำรองของธนาคารมาหลายข้อได้แก่ 1.) คลายเกณฑ์การจัดชั้นสินเชื่อ โดยอนุญาตให้ธนาคารจัดชั้นลูกหนี้ที่มีปัญหาเพราะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดเป็นลูกหนี้ปกติ (หรือ สินเชื่อ stage 1) 2.) อัดฉีดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) ให้กับ SME ผ่านสถาบันการเงินเฉาะกิจ และธนาคารพาณิชย์ วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท บวกกับการค้ำประกันสินเชื่ออีก 6 หมื่นล้านบาท 3.) จ่ายค่าชดเชยให้กับคนว่างงาน และสินเชื่อฉุกเฉินวงเงินประมาณ 1.50 แสนล้านบาท 4.) อัดฉีดสภาพคล่องด้วยการซื้อตราสารหนี้เป็นประจำทุกวัน และยังมีกองทุนตลาดเงิน 1.0 ล้านล้านบาท รวมถึงการตั้งกองทุนช่วยเหลือ (bailout fund) เพื่อช่วยภาคเอกชนในการไถ่ถอนหุ้นกู้อีก 1 แสนล้านบาท 5.) เพิ่มการสนับสนุนให้ธนาคารช่วยเหลือลูกหนี้ เราคิดว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยลดแรงกดดันต่อ NPL และทำให้ NPL เพิ่มขึ้นในระดับปานกลางใน 1Q63

ธนาคารจะได้ประโยชน์จากการที่ยอดสินเชื่อเพิ่ม แต่จะมีผลขาดทุนจากการลงทุนที่ยังไม่รับรู้เพิ่มขึ้น

ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดทำให้ตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรผันผวนอย่างหนัก ซึ่งส่งผลทั้งด้านบวกและลบกับธนาคาร โดยในแง่บวกก็ทำให้ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อเพิ่มได้เพราะหลาย ๆ บริษัทเลื่อนแผนการรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ แต่ใช้การกู้ยืมจากธนาคาร ดังนั้นสินเชื่อของหลาย ๆธนาคารจึงเพิ่มขึ้นแต่อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นก็ทำให้ธนาคารมีผลขาดทุนจากการลงทุนที่ยังไม่รับรู้ ซึ่งส่วนใหญ่จะบันทึกผ่านส่วนผู้ถือหุ้น ยกเว้น BBL ที่บันทึกบางส่วนผ่านงบกำไร/ขาดทุน

คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q63F จะลดลง 18%QoQ และ 21% YoY

ประมาณการของเรายังไม่รวมการควบรวมของ TCAP และ TMB โดยเราใช้สมมติฐานว่ามีการขยายสินเชื่อธุรกิจเพิ่มขึ้น ในขณะที่ NIM ลดลงประมาณ 10bps QoQ และ 20bps YoY แต่ NPL เพิ่มขึ้น 20% ทำให้ credit cost เพิ่มขึ้น 15% ยกเว้น BBL ที่ credit cost ลดลง ทั้งนี้ กำไรที่ลดลงอย่างมาก YoY ของ BBL เป็นเพราะผลขาดทุนจากการลงทุน ในขณะที่ของ KBANK และ SCB เป็นเพราะ credit cost เพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก ทั้งนี้ หากไม่รวมผลจากการควบรวม กำไรของ TMB/Tbank จะลดลง 8%/20% ตามลำดับ ในขณะที่ผลการดำเนินงานของ KKP จะถูกกระทบจากผลขาดทุนก้อนโตจากการ
ขายรถที่ยึดมา และผลขาดทุนจากพอร์ตการลงทุน

Risks

NPL และค่าใช้จ่ายในการกันสำรองเพิ่มขึ้น รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง