คมนาคมเข็นงบปี 63 เร่งประมูลจบพ.ค.นี้

คมนาคมเข็นงบปี 63  เร่งประมูลจบพ.ค.นี้

“คมนาคม” สั่งทุกหน่วยงานในสังกัด เร่งเปิดประมูลโปรเจ็กต์ภายใน พ.ค.นี้ หวังอัดงบเบิกจ่ายลงระบบเศรษฐกิจ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ในปีงบประมาณ ประจำปี 2563หน่วยงานราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคม 13 แห่ง ซึ่งไม่รวมหน่วยงานที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ได้รับจัดสรรงบฯ รวม208,317ล้านบาท แบ่งเป็น รายจ่ายประจำ37,792 ล้านบาท คิดเป็น18% ของงบประมาณทั้งหมด งบลงทุน170,525 ล้านบาท งบปีเดียว 100,442 ล้านบาท งบผูกพันเดิม 52,122 ล้านบาท และงบผูกพันใหม่ 17,961 ล้านบาท

 โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบฯ ไว้ คือ ในเดือน มี.ค.ต้องเบิกจ่ายให้ได้ 40% เดือน เม.ย.48% เดือน พ.ค. 57% เดือน มิ.ย.65% เดือน ก.ค.77% เดือน ต.ค.88% และเดือน ก.ย.100% 

“แม้ว่าขณะนี้กระทรวงคมนาคม รวมถึงประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19และปัญหาภัยแล้ง ประกอบกับปัญหาในปีก่อนที่ยังสะสมอยู่ คือ ภาวะสงครามทางเศรษฐกิจ แต่ก็จำเป็นต้องบริหารงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด”

เบื้องต้นกระทรวงมีนโยบายให้ปรับแผนการประกาศเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) จัดซื้อจัดจ้างเพื่อหาผู้รับจ้างโครงการต่างๆ ให้อยู่ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.ถึงสิ้นเดือน พ.ค.นี้และเริ่มลงนามในสัญญาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.เป็นต้นไปพร้อมตั้งเป้าหมายเร่งรัดการเบิกจ่าย 

โดย เดือนพ.ค. ต้องเบิกจ่ายงบฯ ภาพรวมให้ได้42%หรือคิดเป็นเงิน87,493ล้านบาท เดือน มิ.ย.66% คิดเป็น137,487 ล้านบาทเดือน ก.ค.82% คิดเป็น170,819ล้านบาทเดือน ส.ค.92%คิดเป็น191,657ล้านบาทและเดือน ก.ย.ก็จะเบิกจ่ายได้ครบ 100%

นอกจากนี้ ตนยังย้ำว่าจะใช้ผลการเบิกจ่ายงบฯ เป็นดัชนีชี้วัด (เคพีไอ) ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารช่วงปลายปีด้วย ดังนั้นขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดดำเนินการให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อเป็นการกระตุ้นการลงทุนลงระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ตนจะประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณด้านการลงทุนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม

ด้านนายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า ได้รับจัดสรร 4.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุน 97% และดำเนินการ 3% ซึ่งส่วนใหญ่จะจัดใช้เพื่อซ่อมบำรุงทางทั่วประเทศ โดยในปีงบประมาณนี้ ทช.มีแผนงานซ่อมบำรุงทางที่เตรียมเปิดประมูลเพื่อจัดหาผู้รับเหมาดำเนินการทั้งหมด 5.4 พันโครงการ และยังไม่มีโครงการมูลค่าใหญ่เกิน 1 พันล้านบาท

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) ระบุว่า ได้รับจัดสรร 1.13 แสนล้านบาท มีโครงการที่เตรียมเปิดประมูลงานก่อสร้าง และเตรียมลงนามสัญญาร่วมทุน อาทิ โครงการมอเตอร์เวย์สายนครปฐม - ชะอำ วงเงิน 7.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นงบประมาณดำเนินการต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีโครงการทางหลวงแผ่นดินอื่นเช่นสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 5​ บึงกาฬ-บอลิคำไซ​​ งบลงทุน​ 3.9 พันล้านบาท ที่ฝ่ายไทยจะรับผิดชอบ 2.6 พันล้านบาท

อีกทั้งยังมีโครงการที่เตรียมลงนามสัญญาร่วมทุนในลักษณะเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (พีพีพี) คือ การดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา 196 กิโลเมตร (กม.) และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี 96 กม.เงินลงทุนกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท ที่ทางกลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ เป็นเอกชนที่เสนอราคาต่ำสุด คาดว่าจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ และลงนามสัญญาภายใน พ.ค.2563

นอกจากนี้ ทล.ยังเตรียมเปิดพีพีพี ระบบเก็บเงิน มอเตอร์เวย์ สายบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว และโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอีก 15 กิโลเมตร (กม.) โดยคาดว่าจะสามารถเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเร็วๆ นี้