‘แบงก์ใหญ่’ ผนึกลดดอกเบี้ย ช่วยลูกค้าสู้ 'โควิด' 

หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมฉุกเฉินปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มีผลวานนี้ (23 มี.ค.)  ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่พร้อมใจขานรับ ประกาศปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากตาม นำโดยธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ MORลง0.25%เหลือ6.62%และลดMRRลง0.12%เหลือ6.50%เพื่อช่วยลดภาระให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีและ บุคคลธรรมดา พร้อมลดดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์นิติบุคคลลง0.05%และ เงินฝากประจำลง0.10%-0.25% มีผลวันนี้ (24 มี.ค.)

ขณะที่นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารทีเอ็มบี และธนาคารธนชาต ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR  ลง 0.25% เหลือ 6.675% และลด MRR (Minimum Retail Rate) ลง 0.12% เหลือ 7.03% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป เชื่อมั่นว่าการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะเป็นส่วนช่วยให้คนไทย และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ได้

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (MLR) ลง 0.125% อัตราดอกเบี้ย MOR ลง 0.25% และอัตราดอกเบี้ย MRR ลง 0.125% มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.นี้  สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นการตอบสนองทิศทางดอกเบี้ยนโยบายและให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการในเรื่องการลดต้นทุนด้านอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของต้นทุนการดำเนินธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพในการรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR ลง 0.25% จาก 6.745% เป็น 6.495% และอัตราดอกเบี้ย MRR ลง 0.125% จาก 6.87% เป็น 6.745% เพื่อประคองสภาพคล่องของลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้ารายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และโควิด-19  สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ปรับลดเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์นิติบุคคลลง 0.05% และเงินฝากประจำลง 0.10-0.25% มีผล 24 มี.ค.

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทแบบมีระยะเวลา  (MLR) ลง 0.12% เหลือ 6.23% ต่อปีและเงินกู้ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลง 0.25% เหลือ 6.70% ต่อปี มีผลวันที่ 24 มี.ค.นี้ 

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ทุกธนาคารมีการเตรียมเงินสดเพื่อรองรับให้เพียงพอทุกช่องทางทั้งสาขาและตู้เอทีเอ็ม พร้อมดูแลให้ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมที่จะเพิ่มมากขึ้น

สำหรับลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบธนาคารต่าง ๆ ได้มีมาตรการช่วยเหลือไปแล้วตั้งแต่เดือนก.พ.  โดยช่วงที่ผ่านมาธนาคารทั้งระบบได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้แล้วประมาณ 30,000 ราย เป็นมูลค่า 234,000 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งการพักชำระเงินต้น ลดอัตราดอกเบี้ย ปรับระยะเวลาการผ่อนชำระให้ยาวขึ้น เพื่อลดภาระให้กับลูกค้า