ปตท.ลุยเจรจาแหลมฉบังเฟส3

ปตท.ลุยเจรจาแหลมฉบังเฟส3

ปตท. เร่งเจรจาโครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 คาด ลงนาม พ.ค.นี้ เตรียมงบลงทุน 2 แสนล้านบาท เปิดดำเนินการปลายปี 2566

     นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ว่า ขณะนี้ มีความชัดเจนจากทางศาลปกครองสูงสุดแล้ว โดยขั้นตอนต่อไป ก็อยู่ที่การพิจารณาของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งทางกลุ่ม ปตท. ก็พร้อมปฏิบัติตามในทุกๆเงื่อนไข โดยเฉพาะการเจรจาผลตอบแทนต่างๆ เป็นต้น  ส่วนเงินลงทุนนั้น ปตท. มีความพร้อมเนื่องจากมีการจัดเตรียมงบลงทุนในอนาคตในระยะ 5 ปี (2563-2567) จำนวน 203,583 ล้านบาทไว้แล้ว

     “การเจรจาต่อรอง ก็มีกระบวนการไว้อยู่แล้ว ต้องไปดูรายละเอียด คนอยากได้ก็อยากได้ คนจะให้ก็ต้องดูคุ้มไม่คุ้ม ก็เป็นปกติ เราก็ต้องดูจะคุ้มกับการลงทุนไหมก็ต้องต่อรองกัน แต่วันนี้ชัดเจนแล้ว ว่าสามารถเดินหน้ากระบวนการต่อได้”

     ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ได้นัดเจรจาต่อรองผลตอบแทนกับกลุ่มกิจการค้า GPC (ประกอบด้วย บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (บริษัทในกลุ่ม ปตท.), บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) และ China Harbour Engineering Company Limited ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือน เม.ย.นี้ จากนั้นจะเสนอเข้าบอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศ (กทท.) และเสนอให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อนุมัติ ก่อนส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ในเดือน พ.ค. 2563 และจะเปิดให้บริการปลายปี 2566 ล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้เดิมคือในช่วงต้นปี 2566

     โดยเมื่อวันที่ 13 มี.ค.63 ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษายกฟ้อง กรณีที่กลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ฟ้องเพิกถอนคำสั่งทางปกครองของคณะกรรมการคัดเลือกโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ที่มีมติให้กลุ่มกิจการร่วมค้า NCP เป็นผู้ไม่ผ่านการประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 นั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

      สำหรับการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ของ 7 บริษัทในกลุ่ม ปตท. ประกอบด้วย ปตท.,ปตท.สผ.,พีทีทีจีซี,ไทยออยล์,ไออาร์พีซี,จีพีเอสซี และจีจีซี ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ จะยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม เนื่องจากมีวาระสำคัญที่จะต้องขอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะการพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2562  การแต่งตั้งกรรมการที่จะหมดวาระลง และการแต่งตั้งผู้สอบบัญชี หากไม่สามารถปิดบัญชีให้เรียบร้อย การดำเนินการทางการเงินในปีถัดไปอาจเกิดความยุ่งยากได้ อย่างไรก็ตาม ได้เตรียมมาตรการดูแลผู้ถือหุ้นอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19