ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์"ราคาน้ำมัน" 24-28 ก.พ. 63 และสรุปสถานการณ์ฯ 17-21 ก.พ. 63

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 50-55 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 56-61 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (24 - 28 ก.พ. 63)

ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังตลาดคาดการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในระยะสั้น ขณะที่รัฐบาลจีนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือภาวะการแพร่ระบาดของไวรัส นอกจากนี้ตลาดมองว่าราคายังคงได้รับแรงหนุนจากการประชุมของกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตรที่คาดว่าจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีก 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งในจีนปรับลดกำลังการผลิตลงเพื่อรับมือกับความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปที่ลดน้อยลงอาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบปรับลดลงตาม

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:

• ตลาดคลายความกังวลลงเล็กน้อย หลังรัฐบาลจีนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศจีนมีจำนวนลดลง แตะระดับต่ำสุดนับจากวันที่ 25 ม.ค. 63 อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันยังถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในไตรมาสแรกปี 63 ลดลงจากปีที่ผ่านมา 435 ล้านบาร์เรลต่อวัน
•  รัฐบาลจีนออกนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะ 1 ปี (One-year loan prime rate) ลง 10% มาอยู่ที่ 4.05% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะ 5 ปี (Five-year loan prime rate) ลง 0.05% มาอยู่ที่ 4.75% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ ต.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลจีนคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ หลังจากธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
• ตลาดมีความเชื่อว่า กลุ่มโอเปคและพันธมิตรมีแนวโน้มจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติมราว 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากข้อตกลงเดิมที่ปรับลด 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตรวันที่ 6 มี.ค. 63 นี้ หลังจากการประชุม Joint Technical Committee ของกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตรในช่วงต้น ก.พ. 63 ที่มีการเสนอให้ปรับลดกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปคยังคงรอท่าทีจากประเทศรัสเซียซึ่งยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบหรือไม่
• สถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศลิเบียที่ยื้ดเยื้อมาตั้งแต่เดือน ม.ค. 63 ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของประเทศลดลงเหลือเพียง 14 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดบคาดการณ์ว่าประเทศลิเบียสูญเสียโอกาสการขายน้ำมันดิบราว 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 14 ม.ค. 63 ปรับตัวสูงขึ้น 16 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 443 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นเพียง 2.5 ล้านบาร์เรล
• เศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ อัตราการเติบโต GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 4/63 ดัชนีราคาผู้บริโภคของกลุ่มยูโรโซนเดือน ก.พ. 63

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (17 – 21 ก.พ. 63)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 53.38 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 58.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 56.27 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดัน จากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน และการปรับลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในประเทศจีน