อ่อนตัว

อ่อนตัว

เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Negative และคาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวรับ 1480 / 1470 จุด แนวต้าน 1500 / 1508 จุด ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) ภาคการผลิตรวมเดือน ก.พ. สหรัฐฯ ต่าสุดรอบ 76 เดือน และการเกิด Inverted Yield Curve เป็นครั้งที่ 4 สะท้อนความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว และทาให้นักลงทุนเริ่มหันไปซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย 2) COVID-19 ระบาดนอกจีนเพิ่มขึ้น นาโดยเกาหลีใต้ (ผู้ติดเชื้อใหม่กว่า 400 ราย ใน 3 วัน เป็น 602 ราย เสียชีวิต 5 ราย) อิตาลี (ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 67 ราย เป็น 79 ราย เสียชีวิต 2 ราย) อิหร่าน (ติดเชื้อใหม่ 10 ราย เป็น 18 ราย เสียชีวิต 5 ราย) สหรัฐฯ (ติดเชื้อใหม่ 20 ราย เป็น 35 ราย) ทาให้ IMF เตือนการแพร่ระบาดจะกระทบลุกลามไปยังเศรษฐกิจโลก 3) ทางเทคนิคเกิดสัญญาณรีบาวด์ เมื่อวันศุกร์ (ลงไปแตะ 1580 จุด ก่อนรีบาวด์สวนตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง) แต่หากไม่สามารถฟื้นตัวไปยืนเหนือ 1500 / 1508 จุด ได้ ก็จะเป็นเพียงแค่รีบาวด์เพื่อลงต่อ แนวรับเป้าหมาย 1458 จุด

ประเด็นสำคัญวันนี้: India-ปธน.ทรัมป์ เยือนอินเดีย (ถึงวันอังคาร) USA-สุนทรพจน์ประธานเฟด คลีฟแลนด์ ไทย-ดุลการค้าเดือน ม.ค.

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันศุกร์

+ ตลาดหุ้นไทยรีบำวด์: ดัชนีตลาดฯรีบาวด์ในช่วงปลายตลาดขึ้นมาปิดที่ใกล้ระดับสูงสุดของวันที่ 1495.09 จุด +3.85 จุด +0.26% วอลุ่ม 5.61 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำขึ้น คือ ไฟแนนซ์ +2.67% รับเหมาฯ +1.64% ICT และเกษตร +1.51%

- ตลาดหุ้นโลกปิดร่วงวันที่2: รายงาน Markit Composite PMI เดือน ก.พ. ต่ำสุดรอบ 76 เดือน ที่ 49.6 (Vs เดือน ม.ค. 53.3) และการระบาดเพิ่มขึ้นของ COVID-19 เป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นโลก DJ -0.78% S&P500 -1.05% Nasdaq -1.79% DAX -0.62% CAC40 -0.54% (ทั้งสัปดาห์ DJ -1.4% S&P500 -1.3% Nasdaq -1.6%)

+ ทองคำพุ่งต่อ แต่น้ำมันร่วง: WTI -USD0.50 ปิด USD53.38/บาร์เรล Brent -USD0.81 ปิด USD58.50/บาร์เรล หลังจากสหรัฐฯ รายงานเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ส่วนทองคาพุ่ง USD28.3 ปิดสูงสุด 7 ปี ที่ USD1648.8/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- Fund Flow(17-21 ก.พ.): ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 6 ชาติ ในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) -USD1,679mn (หลังจากซื้อสะสม 2 สัปดาห์ USD2.69bn) โดยขายทุกตลาด ยกเว้น อินเดีย ส่วนตลาดหุ้นไทยถูกขายเป็นสัปดาห์ที่ 13 ในรอบ 14 สัปดาห์ ที่–USD199mn (Vs สัปดาห์ก่อน –USD97mn)

- Coronavirus Update: WHO รายงานว่าในวันที่ 21-22-23 ก.พ. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 78,811 ราย (+1,017, +599, และ+1021 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 2,359 ราย (+103, +112, และ +118 รายใหม่) โดยนอกจีน เกาหลีใต้ติดเชื้อสูงสุด 602 ราย (เพิ่มเท่าตัวใน 3 วัน) ญี่ปุ่น 132 ราย (+47 ราย) สิงคโปร์ 89 ราย (+5 ราย) อิตาลี 79 ราย (+67 ราย)

- เกาหลีใต้: ยกระดับเตือน COVID-19 สู่ระดับสูงสุด หลังจานวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 256 ราย เป็น 602 ราย (3 วัน เพิ่มกว่า 400 ราย) ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย เป็น 5 ราย

- อิตาลี: ยกระดับเตือน COVID-19 หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 67 รายใหม่ เป็น 79 ราย และเสียชีวิต 2 ราย โดยมาจากเมือง Lombardy Veneto และ Rome

- จีน: Honda Motor เลื่อนเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่ง กำลังการผลิต 6 แสนคันต่อปี ในมณฑลหูเป่ย (ศูนย์การผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับ 4 ของจีน) เป็นวันที่ 10 มี.ค.

+ การเมืองไทย: ศาลรธน. วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่และเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 10 ปี

+/- 4Q19E Earnings Results: จับตาผลกำไร ERW HANA MEGA RBF RJH ฯลฯส่วนบจ.ที่ประกาศกำไรวันศุกร์ กำไรดีกว่าคาด VNT (+14.9%) MBK (+23%) กำไรใกล้เคียงคาด (5%) CPF SABINA GULF กำไรแย่กว่าคาด SPRC (ขาดทุนเพิ่ม 58%) BEC (พลิกเป็นขาดทุน 259 ล้านบาท)

+ ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: จับตา ดุลการค้าไทยเดือน ม.ค. คาดขาดดุล -USD624mn (Vs เดือน ธ.ค. +USD596mn) ส่งออก -2.9% YoY (Vs เดือน ธ.ค. -1.28%) นำเข้า -14.3% YoY (Vs เดือน ธ.ค.+2.5%)

- ตัวเลขเศรษฐกิจวานนี้: USA-ดัชนีผจก.ฝ่ายจัดซื้อรวม (Markit Composite PMI) เดือน ก.พ. ปรับตัวลงสู่ 49.6 (Vs เดือน ม.ค. 53.3) ต่ำสุดรอบ 76 เดือน และแสดงการหดตัวเป็นครั้งแรก หลังจากขยายตัวมานานเกือบ 4 ปี

กลยุทธ์: เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BAM INTUCH SAWAD

หุ้นโมเมนตัมบวก: BAM CPF SAWAD BFIT TQM CHAYO JUBILE SAT

หุ้นโมเมนตัมลบ: BANPU CBG IRPC BEAUTY GLOBAL BIG ACAP ALT