TMB หั่น‘จีดีพี’ปีนี้โต1.7% ชี้ ‘3ปัจจัย’ ถ่วงศก.ส่อสูญ 2.8แสนล้าน

TMB หั่น‘จีดีพี’ปีนี้โต1.7% ชี้ ‘3ปัจจัย’ ถ่วงศก.ส่อสูญ 2.8แสนล้าน

ศูนย์วิเคราะห์ทีเอ็มบี หั่นประมาณการ “จีดีพี” ปีนี้เหลือ 1.7-2.1% ผลจาก 3 ปัจจัยถ่วง “ไวรัสโคโรนา-งบปี63ล่าช้า-ภัยแล้ง” กดดันเศรษฐกิจไทยส่อสูญ 2.8 แสนล้าน

ศูนย์เคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบุว่า วิกฤติไวรัสส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและส่งออกไทยเสียหาย 1.5 แสนล้านบาท โดยสถานการณ์ล่าสุดองค์กรอนามัยโลกประกาศการระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นภัยฉุกเฉินสากล(PHEIC) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไม่ให้ลามไปทั่วโลก และรัฐบาลจีนยังเดินหน้าใช้มาตรการป้องกันการลุกลามอย่างเข้มงวด ทำให้เรายังคงประเมินผลกระทบความรุนแรงจากไวรัสครั้งนี้อยู่ในวงจำกัด 

โดยผลกระทบรุนแรงจากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน และการส่งออกไปจีนจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรก และมีแนวโน้มปรับดีขึ้นเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2563 อยู่ที่ 38.7 ล้านคน รายได้ภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวข้องลดลง 1 แสนล้านบาท  รวมทั้งยอดส่งออกไปจีนจะลดลง 2.8 หมื่นล้านบาท ฉุดภาพรวมส่งออกทั้งปี 63 เติบโตลดลงเหลือ 0.6% จากเดิมมองที่ 1.2% 

เม็ดเงินลงทุนสะดุด 6.6 หมื่นล้านบาทจากความล่าช้าของงบประมาณปี 2563 ฉุดการลงทุนภาครัฐโตแค่ 2 %  โดยการเบิกจ่ายงบลงทุนในไตรมาสแรกของปี 63 จะอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 แต่มีแนวโน้มที่งบลงทุนในช่วงที่เหลือของปีจะเบิกจ่ายได้ในอัตราเร่งขึ้น ภายใต้เงื่อนไขกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณสามารถทำได้ภายในไตรมาสสอง ส่งผลให้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนในปีนี้จะอยู่ที่ 60% ซึ่งต่ำกว่าระดับ 70%ของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดี คาดเม็ดเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจจะสามารถเบิกจ่ายในระดับสูงกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การลงทุนภาครัฐโดยรวมเติบโตลดลงเหลือ 2% จากเดิมคาด 6%  

ประเมินภัยแล้งที่เกิดขึ้นเร็วและรุนแรงสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ 6 หมื่นล้านบาท  สอดคล้องกับข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ฝนแล้งจะยาวนานจนถึงเดือนมิถุนายน โดยปริมาณฝนจะต่ำกว่าค่าปกติ 10% ในทุกภาค และปริมาณน้ำในเขื่อนเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ระดับ 43% ใกล้เคียงกับกับปี 2548 ที่เกิดวิกฤตภัยแล้งที่มีความรุนแรงมากสุดในรอบ 40 ปี ส่งผลต่อรายได้ภาคเกษตร และปัจจัยที่กดดันการบริโภคภาคเอกชนให้มีแนวโน้มชะลอลง

คาดมาตรการพยุงเศรษฐกิจ ชดเชยผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงได้ราว 0.2%   เริ่มจากมาตรการช่วยเหลือภาคเกษตรเป็นเม็ดเงินรวมประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตรสำคัญทั้งข้าว มันสำปะหลัง และอ้อย ล่าสุดครม.อนุมัติมาตรการทางการเงิน ซึ่งเน้นช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินของรัฐ และมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ  

จาก 3 ปัจจัยลบที่กดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ แม้มีมาตรการรัฐเข้าพยุง  เชื่อว่าจะไม่สามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน  ทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2563 มีแนวโน้มขยายตัวลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 2.7% เหลือ 1.7-2.1%