ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 1.3% หลังตึงเครียดอิหร่าน-ซาอุฯ

ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 1.3% หลังตึงเครียดอิหร่าน-ซาอุฯ

ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 1.3% หลังตึงเครียดสหรัฐ-อิหร่าน และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์เตือนว่า อิหร่านอาจโจมตีซาอุดีอาระเบียอีกระลอก

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสพุ่งขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์เตือนว่า อิหร่านอาจใช้ขีปนาวุธหรือโดรนเพื่อโจมตีพื้นที่ใกล้ฐานทัพทหารและแหล่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย โดยถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า การผลิตและการลำเลียงน้ำมันในซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก จะได้รับผลกระทบ

เมื่อเวลา 07.56 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.33% แตะที่ระดับ 63.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์เตือนว่า อิหร่านอาจโจมตีซาอุดีอาระเบียอีกระลอก โดยคาดว่าอาจจะใช้ขีปนาวุธหรือโดรนเพื่อโจมตีพื้นที่ใกล้ฐานทัพทหารและแหล่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้นำอิหร่านประกาศความพร้อมที่จะตอบโต้ หลังจากสหรัฐใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อท่าอากาศยานนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรักในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้นายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ฟอร์ซของอิหร่าน และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้นำกองกำลังฮาชด์ชาบี ของอิรัก เสียชีวิต

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเตือนเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐได้เล็งเป้าหมายสถานที่สำคัญของอิหร่านไว้ 52 แห่ง และจะโจมตีสถานที่เหล่านั้นหากทางอิหร่านกระทำการแก้แค้นให้กับนายพลกัสซิม โซเลมานี