เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยเน้นหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกฟื้น

ตัวเลขส่งออกพ.ย. -7.4% ติดลบมากกว่าตลาดคาดที่ -4.0% ส่งผลให้ส่งออกทั้งปีคาดจะติดลบ 2% อย่างไรก็ตามสัญญาณเศรษฐกิจไทยจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวแบบช้าๆ ขณะที่เศรษฐกิจโลกผ่านจุดต่ำสุดระยะสั้นหลังชะลอในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาของเรา ทำให้ยังคงมองการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกจะส่งแรงฉุดที่เป็นบวกให้กับการลงทุนในช่วงต้นปี 2563 ขณะที่งบประมาณปี 2563 จะเข้าพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในช่วง ม.ค.63 ก่อนที่เม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบและคาดจะเห็นการเร่งเบิกจ่ายตั้งแต่ไตรมาส 2/63 

ติดตามปัจจัยเฉพาะตัว 1) BEM – การยืดสัมปทานทางด่วน 15 ปี 8 เดือน แลกกับการยุติข้อพิพาททั้งหมด ซึ่งผลการเจรจาเป็นบวกน้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเห็นการต่อสัมปทาน 30 ปี ส่งผลให้ราคาเหมาะสมอาจลดลงเหลือเพียง 12 บาท (จาก 13 บาท) 2) AOT –ดิวตี้ฟรีที่ดอนเมือง ซึ่งคิงพาวเวอร์ได้สัญญา 10 ปี 6 เดือน และจ่ายค่าตอบแทนรายปีขั้นต่ำ 1.5 พันล้านบาท

ยังเน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ในระยะสั้นเราคาดหุ้นในกลุ่มค้าปลีกจะมีความเสี่ยงของผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวตามการบริโภค และจากผลของการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS16 เกี่ยวกับสัญญาเช่า ที่ทำให้หนี้สินและต้นทุนในการดำเนินงานมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นและกดดันกำไรในช่วงแรก เรามองหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลก อาทิ TOP, SPRC, PTT, PTTEP ยังน่าสนใจ

ประเด็นเก็งกำไรระยะสั้นที่น่าสนใจ 1) ราคาน้ำตาลทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 ปี เป็นปัจจยบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นน้ำตาล (ควรกำหนดจุดตัดขาดทุน) 2) ค่าเงินเรียล บราซิลเริ่มแข็ง ขณะที่เงินบาทเริ่มอ่อนค่า เป็นปัจจยบวกต่อกลุ่มส่งออกอาหารและเนื้อสัตว์ อาทิ CPF, TFG, GFPT 3) หุ้น IPO ที่ราคาลงมาอยู่ในเหณฑ์น่าสนใจ ได้แก่ BAM และ ACE

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองบวกในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้า จากภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว ทั้งนี้การเก็งกำไรระยะสั้นที่ตลาดรับรู้ปัจจัยบวกไประยะหนึ่งจะอยู่ที่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก หรือหุ้นใหญ่ที่ลงมามาก // หุ้นแนะนำวันนี้ VNT*, BBL, /เก็งกำไร KSL* (เป้า 2.60, ตัดขาดทุน 2.12), เก็งกำไร VL* (เป้า 1.60, ตัดขาดทุน 1.34)

แนวรับ 1568 จุด / แนวต้าน : 1580 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นการลงทุน

รัสเซียเผยอาจลดการผลิตน้อยกว่าที่กำหนด – รัสเซียเผย กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (OPEC+) อาจพิจารณาผ่อนปรนข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตในการประชุม เดือน มี.ค.63

จีนเดินหน้าหั่นภาษีสินค้าสหรัฐฯ – กระทรวงการคลังจีนแถลง รัฐบาลเตรียมปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ กว่า 850 รายการ โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ปี 63 เป็นต้นไป

ส่งออกหดแรงกว่าคาด – กระทรวงพาณิชย์ รายงานตัวเลขส่งออกไทย เดือน พ.ย. หดตัวต่อ -7.39% yoy (จากตลาดคาด -5 ถึง -2%) ขณะที่ นำเข้าหดตัว -13.78% yoy รับพิษเศรษฐกิจและการค้าโลกโตชะลอ

เสถียรภาพการเงินไทยเสี่ยงสูงขึ้น – กนง.-กนส. ชี้เสถียรภาพการเงินไทยเสี่ยงสูงขึ้น แนะจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด เผยมาตรการ LTV ไม่กระทบสินเชื่อบ้านแบบผ่อนสัญญาเดียว แต่กังวลภาวะหนี้ครัวเรือน สินเชื่อ SME เร่งออกกฎหมายคุมสหกรณ์

ค่าระวางเรือ - ดัชนี BDI ปิดวันทำการที่ 1,103 จุด ลดลง 20.00 จุด, -1.78%

 

ประเด็นติดตาม: 24 ธ.ค. – BOJ meeting, 24-25 ธ.ค. – ตลาดสหรัฐฯ ออสเตรเลีย เยอรมัน ปิดทำการเนื่องในวัน Christmas

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)