'ซุปเปอร์พาร์ค’ บุกตลาดไทยเขย่าคู่แข่งธีมปาร์ค

ธุรกิจสวนสนุกยังคงมนต์เสน่ห์และน่าสนใจ ดึงดูดลูกค้าท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาใช้เวลาเพลิดเพลินกับกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงด้วยพื้นฐานของชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว อยากทำกิจกรรมร่วมกัน อีกทั้งอินไซต์ลูกค้า พบว่า หัวใจของคนเรายังเป็นเด็กอยู่เสมอ!! นับเป็นโอกาสธุรกิจ ยิ่งด้วยชื่อชั้นของกรุงเทพฯ ในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลก ทำให้ “ซุปเปอร์พาร์ค” แบรนด์สวนสนุกในร่มสัญชาติฟินแลนด์ ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2012 ตัดสินใจไม่ยาก!! ที่จะรุกเข้ามาทำตลาดในไทย

มาร์ค กุมาราสินห์ ประธานกรรมการบริหาร ซุปเปอร์พาร์ค เอเชีย กล่าวว่า สวนสนุกในร่ม “ซุปเปอร์พาร์ค ประเทศไทย”  เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พ.ย.นี้ ที่ไอคอนสยาม ถือเป็นโลเกชั่นที่ใช้เงินลงทุนสูงสุดเมื่อเทียบกับสาขาอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 16 สาขา อยู่ในฟินแลนด์ 10 สาขา จีน 2 สาขา  ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยเป็นสาขาล่าสุด

ซุปเปอร์พาร์ค ประเทศไทย มีพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร วางกลยุทธ์ความแตกต่างจากธีมปาร์คหรือสวนสนุกในร่มอื่นๆ ทั้งจำนวนกิจกรรมและฐานเครื่องเล่นที่มีกว่า 27 กิจกรรม บางกิจกรรมมีเฉพาะที่ซุปเปอร์พาร์ค เช่น ซุปเปอร์สกี ซีมูเลเตอร์, ซุปเปอร์เทนนิส แล ะซุปเปอร์บิ๊กดร็อป

“ลูกค้าเป้าหมายคือกลุ่มคนไทย โดยเฉพาะครอบครัว ด้วยการออกแบบกิจกรรมและฐานเครื่องเล่นให้เล่นได้ทั้งครอบครัวและทุกเจนเนอเรชั่น"

เป็นแนวคิดการทำธุรกิจนี้ตั้งแต่แรก ของ ซุปเปอร์พาร์ค เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ ”เรียนรู้นอกห้องเรียน“ ซึ่งเป็นปรัชญาการเรียนรู้ที่ประเทศฟินแลนด์ให้ความสำคัญ หลังเห็นสวนสนุกในร่มส่วนใหญ่จะมีขนาดสำหรับเด็กเท่านั้น ผู้ปกครองจึงต้องปล่อยบุตรหลานให้เล่นสนุกกับเด็กคนอื่นๆ

นอกเหนือจากกลุ่มครอบครัวแล้ว ซุปเปอร์พาร์คยังจับกลุ่มเป้าหมาย “วัยรุ่น” ที่นิยมท่องเที่ยวกับเพื่อนฝูง และ “กลุ่มเด็กนักเรียน” ผ่านการเสนอขายโปรแกรมแก่โรงเรียนต่างๆ ให้นักเรียนได้มาทำกิจกรรม  รวมถึง “กลุ่มลูกค้าองค์กร” สามารถเข้ามาทำกิจกรรมทีมบิลดิ้ง พร้อมรองรับด้วยห้องจัดงานเลี้ยงขององค์กร งานอีเวนท์ และอื่นๆ

ด้าน “กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ” ซึ่งนิยมท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาและมักจะมีโปรแกรมเดินเที่ยวและจับจ่ายในไอคอนสยาม น่าจะสนใจวอล์ค-อินเข้ามาทำกิจกรรมภายในซุปเปอร์พาร์คเช่นกัน โดยได้ทำตลาดขายบัตรใช้บริการผ่านเอเย่นต์ทัวร์ รวมถึงแพลตฟอร์มจองสินค้าท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agents: OTA)

“เราเห็นการพัฒนาของโครงสร้างพื้นฐานและภาคธุรกิจในฝั่งธนบุรี การท่องเที่ยวที่เติบโตดี ขณะที่สวนสนุกในร่มมีค่อนข้างน้อย คนไทยชอบทำกิจกรรมในร่ม จึงมั่นใจและเข้ามาลงทุนเปิดสวนสนุกในร่มซุปเปอร์พาร์ค ประเทศไทย”

ทั้งนี้ ได้จัดสรรพื้นที่ออกเป็น 3 โซน เช่นเดียวกับซุปเปอร์พาร์คในฟินแลนด์ ได้แก่  ดินแดนนักผจญภัย (Adventure Area) นำเสนอกิจกรรมการเล่นที่สนุกสนานสำหรับเด็กและเยาวชน พ่อแม่ผู้ปกครอง เช่น ไอ ทีชเชอร์ ลู ห้องเรียนอัจฉริยะ, ด่านโหนสลิงดังจิ้งจอกสายลม, เครื่องเล่นสไลด์เรือยาง, เมืองนักผจญภัยตัวน้อย, ด่านเครื่องกีดขวาง–หนทางสู่ยอดนินจา, สนามสิงห์นักถีบ และอื่นๆ

สังเวียนเจ้าแห่งเกม (เกม อารีน่า) ผู้เล่นสามารถแข่งขันในเกมกีฬาอย่างดุเดือดผ่านเทคโนโลยีช่วยเพิ่มอรรถรส นอกจากเกมซุปเปอร์เทนนิส ยังมีเกมเบสบอล 2.0 สตรีทบาสเกตบอล และโรโบคีปเปอร์-ชิงประตูโกลจักรกล  ฟรีสไตล์ฮอลล์ เป็นโซนที่มีกิจกรรมท้าทาย เหมาะกับวัยรุ่น มีสเก็ต แอนด์ สกู๊ต เวิลด์, แทร็มโพลีน แพลตฟอร์ม, ซุปเปอร์บ็อกเซอร์-AIมวยอัจฉริยะ, ซุปเปอร์ไคลม์ หน้าผาจำลองสูงกว่า8เมตร, ซุปเปอร์สกี, ซุปเปอร์ไอซ์สเก็ตติ้ง และซุปเปอร์บิ๊กดร็อป

อีกหนึ่งกลยุทธ์ของซุปเปอร์พาร์ค ประเทศไทย คือ การตั้งราคาที่เหมาะสม เพื่อดึงลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ!!  ซุปเปอร์พาร์คยังมีแผนขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย  คาดปีหน้าเปิดบริการได้อีก 3 แห่ง ที่เกาหลี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินเดีย พร้อมมองหาโอกาสในจุดหมายอื่นๆ เพิ่มเติม