ลุ้นฟื้นตัว หลังแรงกดดันช่วงสั้นชะลอลงพร้อมกับการหมดประกาศผลประกอบการ

ขณะที่ข่าวร้ายเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 3/62 ที่อ่อนแอ รับรู้เข้าไปในราคาเป็นส่วนใหญ่แล้ว ทำให้หากการรายงาน GDP ไตรมาส 3/62 ออกมาดีตามคาดหรือดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.7% (จาก ไตรมาส 2/62 ที่ 2.3%) จะมีส่วนหนุนต่อการฟื้นตัวของหุ้นไทย ซึ่งหากมองปัจจัยฤดูกาลในช่วง 2 ไตรมาสหน้าประกอบ จะทำให้กลุ่มท่องเที่ยวยังคงมีความน่าสนใจ เราชอบ MINT, ERW และเก็งกำไร AOT

ติดตามความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งล่าสุดแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเซรษฐกิจทำเนียบขาว เปิดเผยสหรัฐฯใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน เป็นปัจจัยบวกที่มีโอกาสหนุนจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้น ซึ่งเราประเมินจิตวิทยาภายนอกโดยรวมยังคงเป็นบวก ขณะที่จิตวิทยาภายในอาจผันผวนจากประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลที่อ่อนแอลง

ใช้ B10 เป็นน้ำมันพื้นฐานแทน B7 ตั้งแต่ 1 ม.ค.63 ส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ผลิตไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์ม ได้แก่ GGC, BCP (และ PTG, AIE ซึ่งเรามองน่าสนใจน้อยกว่า) เป็นต้น ขณะเดียวกันอุปทานกลีเซอรีนจำนวนมาก ที่เป็นผลพลอยได้จากไบโอดีเซล จะเป็นวัตถุดิบราคาถูกให้กับการผลิต PVC ของ VNT

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ ลุ้นฟื้นหรือใกล้ฟื้น คงมุมมองการลงทุนโดยรวมเป็นบวกในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า แม้การหลุด 1610 จุด ทำให้โมเมนตัมของการเก็งกำไรระยะสั้นอาจผันผวน ลงไปถึง 1590 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ VNT, EPG* /เก็งกำไร  THRE* (เป้า 0.75, ตัดขาดทุน 0.62), SSP* (เป้า 9.00, ตัดขาดทุน 7.30)

แนวรับ 1595-1600 จุด / แนวต้าน : 1615-1625 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

หนี้โลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ – สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IFF) เผย หนี้สินทั่วโลกพุ่งขึ้น $7.5 ล้านล้าน สู่ระดับ $250.9 ล้านล้าน ในช่วง 6M62 และจะสูงเกิน $255 ล้านล้าน ณ สิ้นปี 2562 นำโดยการพุ่งขึ้นของหนี้สินในสหรัฐฯ และ จีน

แบงก์ชาติจีนอัดฉีดเงินเข้าตลาด 4 หมื่นล้านหยวน – แบงก์ชาติจีน (PBOC) เผย เงินทุนระยะยาวประมาณ 4 หมื่นล้านหยวนถูกอัดฉีดเข้าตลาดหลังมารการ RRR ระยะสอง มีผลบังคับใช้ พร้อมอัดฉีดเงินผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี วงเงิน 2 แสนล้านหยวน หนุนสภาพคล่อง

MSCI เตรียมหุ้นซาอุดี อารามโค เข้าคำนวณดัชนี – MSCI เตรียมรวมหุ้นซาอุดี อารามโค ในการคำนวณ MSCI Equity Indexs ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. นี้ หากหุ้นถูกซื้อขายเกิดขึ้นภายใน 12 ธ.ค. แต่หากซื้อขายหุ้นหลังวันที่ 12 ธ.ค. การรวมหุ้นเข้าคำนวณดัชนีจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 5 ม.ค. 63

ดันรัฐวิสาหกิจเร่งลงทุนโค้งสุดท้ายปี 62 – สมคิด กระตุ้นรัฐวิสาหกิจเร่งลงทุนในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 62 คาดหนุนเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจราว 1 แสนล้านบาท

จยย.แพงขึ้น 5 หมื่นบ. หลังบังคับไอเสียมาตรฐานยูโร 4 - ครม.เห็นชอบกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ต้องเทียบเท่ามาตรฐานยูโร 4 ว่า ข้อกำหนดดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาของรถจักรยานยนต์ปรับเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยคันละ 40,000-50,000 บาท

ประเด็นติดตาม: 18 พ.ย. – สภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาส 3/62, 21 พ.ย. – FOMC meeting minutes, 22 พ.ย. – EU manufacturing PMI เดือน พ.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)