รับมือดอกเบี้ยขาลง! ‘เมืองไทยประกันชีวิต’ลุยตลาดอสังหา ปั้นผลตอบแทนระยะยาว

รับมือดอกเบี้ยขาลง! ‘เมืองไทยประกันชีวิต’ลุยตลาดอสังหา ปั้นผลตอบแทนระยะยาว

“เมืองไทยประกันชีวิต” รุกขยายการลงทุนอสังหาฯ หวังสร้างผลตอบแทน ในภาวะดอกเบี้ยต่ำ ชี้ตลาดยังเติบโตสูง ล่าสุดเปิดตัว “66 Tower” อาคารออฟฟิตเกรดเอย่านสุขุมวิท มูลค่ากว่า 3.8พันล้านบาท พร้อมศึกษาอสังหาฯตอบโจทย์ผู้สูงวัย

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าขยายการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยพยายามหาการลงทุนที่มากกว่า15ปีขึ้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับผลิตประกันชีวิตที่เป็นผลิตภัณฑ์ระยะยาว และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในภาวะดอกเบี้ยต่ำ

โดยล่าสุดได้ เปิดตัวอาคาร ซิกตี้ซิกส์ ทาวเวอร์ หรือ 66 Tower  The Living Workplace Solution มูลค่ากว่า  3,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ ย่านสุขุมวิท ใกล้ซอยสุขุมวิท 66 ภายใต้แนวคิด Human Centric Living Workplace มุ่งออกแบบพื้นที่ โดยเน้นผู้ใช้อาคารเป็นศูนย์กลาง เริ่มต้นก่อสร้างแล้ว โดยบริษัท ฤทธา จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักของโครงการ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณไตรมาส2 ปี2564 จากปัจจุบันทำไปแล้วกว่า 15% และมีบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CBRE เป็นตัวแทนในการปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงานแต่เพียงผู้เดียว

ทั้งนี้ โครงการตั้งอยู่ใน พื้นที่4ไร่ อาคาร28ชั้น พื้นที่ให้เช่า 30,000 ตร.ม. ในทำเลที่มีศักยภาพ ง่ายต่อการเชื่อมต่อเศรษฐกิจชั้นในและโซนธุรกิจอุตสาหกรรม รวมถึงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี นอกจากนี้อาคารตั้งอยู่ใกล้บีทีเอส สถานีอุดมสุข เพียง 150 เมตร สะดวกต่อการเชื่อมต่อการขนส่งมวลชน ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 3สาย ทางด่วนเฉลิมมาหานคร ทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนบูรพาวิถี  สามารถเดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงวัยในอนาคต คาดว่าจะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุน เพราะเป็นการลงทุนที่มีความพิเศษเฉพาะตัวต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญมาบริหารจัดการ ขณะเดียวกันยังมองหาพื้นที่ศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯชั้นใน และพื้นที่เชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจสำคัญ เพื่อขยายโครงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เบื้องต้นอย่างน้อยปีละ2โครงการ พร้อมสนใจจัดตั้งกองรีทในอนาคตเช่นกัน หวังสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีในระยะยาว

ปัจจุบัน บริษัทลงทุนโดยตรงในอสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 6,000 ล้านบาท มีจำนวน 2โครงการ ได้แก่ อาคารเมืองไทยภัทร มูลค่า 2,000 ล้านบาท และอาคาร 66 Tower มูลค่า3,800กว่าล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน1% ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งสิ้น500,000กว่าล้านบาท  บริษัทยังมีศักยภาพลงทุนเพิ่มเติมได้อีกมาก จากกฎหมายกำหนดเพดานไว้ 15%ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมดหรือประมาณ75,000ล้านบาท โดยผลตอบแทนการลงทุนโดยตรงในอสังหาริมทรัพย์  ให้ผลตอบแทนดีติดอันดับ1ใน5ของการลงทุนทั้งหมด

นายนิธิพัฒน์ ทองพันธุ์ กรรมการบริหารและหัวหน้าแผนกพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซีบีอาร์อี(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี2562 ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯยังเติบโตต่อเนื่อง มีอัตราพื้นที่ว่างเพียง7% ค่าเช่ายังคงขยับขี้นอย่างต่อเนื่อง แต่ขยับขึ้นในอัตราที่ลดลง อย่างไรก็ตาม โครงการใหม่ๆจะทยอยเพิ่มเข้าสู่ตลาดในปี 2564 เป็นต้นไป ทำให้มีการแข่งขันมากขึ้น

“ ตลาดพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯ เปลี่ยนไป  มีการจัดพื้นที่ทำงานเพื่อให้ใช้พื้นที่น้อยลงแต่เพิ่มคนได้มากขึ้น ซี่งโครงการ66Tower ได้รับออกแบบเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว โดยออกแบบพื้นที่สำนักงานที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานอาคารสำนักงานเกรดเอ เตรียมความพร้อมรองรับผู้เช่าจำนวนมากในอนาคต เช่น ความเร็วของลิฟท์ จำนวนห้องน้ำที่เพียงพอ นอกจากนั้นผู้เช่ายังสามารถทำบันไดเชื่อมระหว่างชั้นภายในพื้นที่สำนักงานของตนเองได้”