ไทยเตรียมรับการลงทุนหลังเวทีรัฐมนตรีอาร์เซ็ปส่งสัญญาณเจรจาจบ

ไทยเตรียมรับการลงทุนหลังเวทีรัฐมนตรีอาร์เซ็ปส่งสัญญาณเจรจาจบ

ห่วงโซ่การผลิตโลก ลุ้นผู้นำรับลูกประกาศความสำเร็จหลังเวทีรัฐมนตรี อาร์เซ็ปส่งสัญญาณ เจรจาจบ

ช่วงเย็นวานนี้ 1พ.ย. ในการประชุมรัฐมนตรี ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป  มีรายงานเบื้องต้นว่าอาร์เซ็ป 16 ประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลง 
 เนื่องจากต้องเสนอผลการเจรจาให้ผู้นำพิจารณาในวันที่ 4 พ.ย. หากผ่านความเห็นขอบก็จะสามารถประกาศความสำเร็จการเจรจา ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่จะส่งไปถึงโลกการค้าและการลงทุนว่า ภูมิภาคนี้กำลังจะมีขีดความสามารถรองรับห่วงโซ่การผลิตของโลกได้
 “ข้อตกลงอาร์เซ็ป เป็นข้อตกลงฉบับแรกที่มีความทันสมัย ซึ่งจะไม่เน้นการยกระดับทางการค้าที่สูงเกินไป จนปฎิบัติยาก แต่จะเน้นกฎระเบียบที่สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลง หรือดิสรัปชั่น ทั้งจากเทคโนโลยีและรูปแบบการค้าแห่งอนาคตได้”แหล่งข่าวจากที่ประชุมกล่าว 

ทันทีที่ อาร์เซ็ปเป็นรูปเป็นร่าง ไทยและภูมิภาคนี้จะกลายเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจ เพราะอาเซ็ปคือ 16 ประเทศที่มีประชากร ค่อนโลกจำนวน 3.5พันล้านคน ซึ่งจะเป็นทั้ง ผู้บริโภคและแรงงานคุณภาพแห่งอนาคต เป็นห่วงโซ่การผลิตที่สามารถเคลื่อนย้ายทั้งวัตถุดิบและสินค้าได้อย่างสะดวกและมีต้นทุนต่ำลง

ปัจจัยต่างๆมาจากความสามารถตกลงร่วมกันในเรื่องสำคัญๆทางการค้าและการลงทุนจำนวน 20 ข้อบทประกอบด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ ข้อบทวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม , ข้อบทพิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า, ข้อบทจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ, ข้อบทมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช, ข้อบทมาตรฐานกฎระเบียบทางเทคนิค แลกระบวนการตรวจสอบและรับรอง, ข้อบทบัญญัติเกี่ยวกัสถาบัน,ข้อบทบริการโทรคมนาคม, ข้อบทการค้าบริการ ว่าด้วยเรื่องบริการการเงิน บริการวิชาชีพ, ข้อบทการค้าสินค้า, ข้อบทการเคลื่อนย้ายบุคคล, ข้อบททรัพย์สินทางปัญญา, ข้อบทบัญญัติทั่วไปและข้อยกเว้น, ข้อบทการระงับข้อพิพาท, ข้อบทบัญญัติสุดท้ายและภาคผนวกแหล่งกำเนิดสินค้าเฉพาะรายสินค้า, ข้อบทการเยียวยาทางการค้า, ข้อบทการแข่งขัน, ข้อบทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, ข้อบทการค้าบริการ, กฎถิ่นกำเนิดสินค้า และการลงทุน
แม้ข้อตกลงจะต้อใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 ปีจากนี้กว่าจะมีผลในทางปฎิบัติ แต่สัญญาณจากเวทีรัฐมนตรีครั้งนี้จะย้ำภาพว่าภูมิภาคอาเซียนและอีก6ประเทศภายใต้ข้อตกลงฯมีความร่วมมืออย่างแข็งแกร่งเพื่อแสดงบทบาทนำแห่งการค้าและการลงทุนโลก