'เวียดนาม' ติดท็อป 10 ส่งเงินกลับประเทศมากสุดปี 62

'เวียดนาม' ติดท็อป 10 ส่งเงินกลับประเทศมากสุดปี 62

เวียดนามติดท็อป10 ส่งเงินกลับประเทศมากสุดปี 2562 โดยมูลค่าการส่งเงินกลับประเทศของเวียดนามอยู่ที่ 16,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2561 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 6.4% ของจีดีพีประเทศ

เวียดนาม ชาติสมาชิกในกลุ่มสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)ที่เศรษฐกิจโตวันโตคืน สวนทางหลายประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีปัจจัยเสี่ยงสารพัด แต่ล่าสุด สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนาม เปิดเผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง อยู่ที่ 7.31% ในไตรมาส 3 ปีนี้ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ส่วนภาคธุรกิจทก็ขยายตัวได้ดีไม่แพ้กัน ทั้งอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ซึ่งเติบโตขึ้น 10.05% ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. เทียบกับช่วงเดียวกัยของปี 2561 ส่วนภาคการบริการมีการขยายตัวราว 7.11% และการเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.53%

สัญญาณบวกเหล่านี้ ทำให้ทางการเวียดนาม ปรับเพิ่มตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ในไตรมาสที่ 2 จาก 6.71% ขยับเป็น 6.73% และช่วงปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ประกาศคงประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามไว้ที่ 6.8% ในปีนี้ และ 6.7% สำหรับปี 2563

แต่ข่าวดีของเวียดนาม ไม่ได้มีแค่นี้ ล่าสุด หน่วยงานด้านการพัฒนาและการอพยพของธนาคารโลก เผยแพร่รายงานล่าสุด บ่งชี้ว่า เวียดนามติด1ใน10 ประเทศที่มีการส่งเงินกลับประเทศมากที่สุดในโลกในปี 2562 โดยคาดว่าตลอดทั้งปีนี้ ยอดส่งเงินกลับประเทศของชาวเวียดนามโพ้นทะเลจะอยู่ที่ 16,700 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นประเทศในอาเซียนที่ส่งเงินกลับประเทศมากที่สุดอันดับ 9 ของโลก

มูลค่าการส่งเงินกลับประเทศของเวียดนามที่16,000 ล้านดอลลาร์ในปี2561 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 6.4% ของจีดีพีประเทศ ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกแล้ว การส่งเงินกลับประเทศของเวียดนามเป็นรองก็แต่จีนและฟิลิปปินส์เท่านั้น

เหวียน ทริ ฮอย ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน-การธนาคาร กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ชาวเวียดนามโพ้นทะเลส่งเงินกลับประเทศในปริมาณที่สูงมากแบบนี้เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศว่ามีเสถียรภาพและมองเห็นโอกาสการลงทุนในประเทศที่ดีกว่าการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ และเงินที่ชาวเวียดนามส่งกลับมา ส่วนใหญ่ถูกนำไปลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิต ทำธุรกิจและลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์

“นโยบายของรัฐบาลกลางที่กำหนดอัตราดอกเบี้ย0% สำหรับผู้ฝากเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้ชาวเวียดนามส่งเงินกลับประเทศเพื่อลงทุนแทนที่จะเก็บไว้กินดอกเบี้ยในธนาคาร” ฮอย กล่าว

ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา การส่งเงินกลับประเทศของชาวเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2543 เป็น 16,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว(เว้นปี2552 เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤติการเงินโลก)

รายงานของธนาคารโลกฉบับนี้ ระบุว่า ในปี2562 ประเทศชั้นนำ5ประเทศที่ส่งเงินกลับประเทศสูงสุดคือ อินเดีย ยอดส่งเงินกลับอยู่ที่ 82,200 ดอลลาร์ จีน 70,300 ล้านดอลลาร์ เม็กซิโก 38,700 ล้านดอลลาร์ ฟิลิปปินส์ 35,100 ล้านดอลลาร์ และอียิปต์ 26,400 ล้านดอลลาร์

ธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่า การส่งเงินกลับประเทศของกลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง-ต่ำจะเพิ่มขึ้นเป็น 551,000 ล้านดอลลาร์ในปี2562 เพิ่มขึ้นประมาณ 4.7% เมื่อเทียบกับปี 2561

ส่วนการส่งเงินกลับประเทศในกลุ่มประเทศแถบเอเชียใต้ เพิ่มขึ้น 5.3% แอฟริกาใต้แถบซับสะฮารา เพิ่มขึ้น 5.1% และในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เพิ่มขึ้น 3.8% อานิสงส์จากกระแสเงินไหลเข้าของสหรัฐที่ช่วยชดเชยกระแสเงินไหลเข้าจากกลุ่มประเทศในยุโรปและกลุ่มประเทศสมาชิกสภาความร่วมมืออ่าวเปอร์เซีย(จีซีซี)ที่ลดลง

ทั้งนี้ ชาวเวียดนามเกือบครึ่งของจำนวน 4.5 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ ส่งเงินกลับประเทศในสัดส่วนประมาณ 60% ของจำนวนเงินทั้งหมดที่ชาวเวียดนามในต่างแดนส่งกลับประเทศ ซึ่งนโยบายควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดมากขึ้นของรัฐบาลสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้การส่งเงินกลับประเทศลดลงประมาณ 0.4% ของจีดีพีเวียดนาม