ร.ฟ.ท.ทรานส์ฟอร์ม เตรียมผุดแผนขายตั๋วดิจิทัล

ร.ฟ.ท.ทรานส์ฟอร์ม เตรียมผุดแผนขายตั๋วดิจิทัล

บอร์ดรถไฟ อนุมัติ 920 ล้าน จ้าง “แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น” พัฒนาระบบขายตั๋วดิจิทัล คาดเปิดใช้ ธ.ค.2563 ย้ำดึงทุกช่องทางจำหน่ายตั๋วหวังยกระดับบริการ

นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่าที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้ว่าจ้างบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ทำการพัฒนาระบบตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง หรือระบบ D-ticketหรือตั๋วดิจิทัลวงเงิน 920 ล้านบาท

โดยหลังจากนี้ AIT จะต้องกลับไปพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วระบบใหม่ให้รองรับการจำหน่ายตั๋วได้ทุกช่องทาง ทั้งจำหน่ายภายในสถานีซื้อผ่านออนไลน์ ซื้อผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น ระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสารบนรถไฟผ่านคอมพิวเตอร์มือถือแบบพกพาหรือ Handheld Computer ในกรณีที่ผู้โดยสารขึ้นระหว่างทางพร้อมทั้งพัฒนาตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ขณะที่ระบบการชำระเงินค่าโดยสารก็จะต้องมีความสะดวกและหลากหลายมากขึ้น โดยสามารถชำระเป็นเงินสด หรือชำระผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ได้

อย่างไรก็ตาม การลงนามว่าจ้างเอกชนรายดังกล่าว ร.ฟ.ท.จะเร่งรัดตามมติบอร์ดเร็วๆ นี้ จากนั้นจะเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นและระบบขายตั๋ว ซึ่งตามเอกสารประมูลโครงการ(ทีโออาร์) กำหนดว่าจะต้องแล้วเสร็จภายใน 15 เดือน ภายหลังลงนามในสัญญา แต่เบื้องต้น ร.ฟ.ท.จะเร่งให้เสร็จ และเปิดให้บริการระบบจำหน่ายตั๋วดิจิทัลให้เร็วขึ้นคาดว่าจะเปิดใช้ได้ในเดือน ธ.ค.2563

อย่างไรก็ตาม ระบบตั๋วดิจิทัล จะเป็นระบบซื้อตั๋วโดยสารผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ ผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ โดยจะต้องดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นชื่อ D-ticket สมัครสมาชิกและยืนยันข้อมูล จากนั้นจะสามารถดำเนินการจองตั๋วและชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะได้รับรหัสยืนยันและคิวอาร์โค้ด เพื่อแสดงข้อมูลการเดินทาง

รวมทั้งระบบดังกล่าวยังรองรับระบบการจองตั๋วรูปแบบอื่น ทั้งการซื้อตั๋วออนไลน์ผ่านสถานีทั่วประเทศ การซื้อผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1690 โดยการแจ้งรายละเอียดการเดินทางแก่เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นโดยผู้โดยสารจะได้รับรหัสยืนยัน เพื่อนำรหัสไปออกตั๋วที่สถานีพร้อมชำระเงินภายใน 24ชั่วโมง

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า บอร์ดได้อนุมัติการเดินหน้าโครงการระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ตามที่คณะกรรมการที่แล้วตั้งอนุกรรมการศึกษา โดยครอบคลุมรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง คือ สายเหนือ ใต้ อีสาน หลังจากบอร์ดอนุมัติเตรียมลงทุนกับเอกชนที่ชนะการประมูล คาดว่าจะสามารถลงนามปี 2562 ถึงต้นปี 2563