วิตกเศรษฐกิจสหรัฐกดดันราคาน้ำมันดิบร่วง

วิตกเศรษฐกิจสหรัฐกดดันราคาน้ำมันดิบร่วง

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันอังคาร(1ต.ค.)ปรับตัวร่วงลงเล็กน้อยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ หลังการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐที่ซบเซา ซึ่งจะฉุดความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 53.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 49 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ราคา 58.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 47.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.2 จากระดับ 49.1 ในเดือนส.ค. โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ และเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 2

ภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะหดตัวในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่มีการขยายตัวติดต่อกัน 35 เดือน

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกหดตัวลงตั้งแต่เดือนก.ค. โดยการบริโภค คำสั่งซื้อใหม่ สต็อกสินค้าคงคลังเพื่อการส่งออกและนำเข้า หดตัวลงเช่นกัน ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นลดลง

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ซาอุดีอาระเบียสามารถฟื้นฟูกำลังการผลิตน้ำมันอย่างรวดเร็ว สู่ระดับก่อนถูกโจมตีในวันที่ 14 ก.ย. โดยในเดือนส.ค. ซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมัน 9.78 ล้านบาร์เรล/วัน