เปิดเอกสารแนบท้ายสัญญา ต้นเหตุ “ซีพี” ยื้อเซ็นไฮสปีด

หลังสือของกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ดังกล่าวระบุถึงการเจรจาระหว่าง 2 ฝ่าย เกี่ยวกับเอกสารแนบท้ายร่างสัญญาร่วมลงทุน โดยระบุถึงการที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) มีมติให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ ,การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และที่ปรึกษาโครงการฯ ทำเอกสารแนบท้ายร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการและเจรจากลุ่มกิจการร่วมค้าฯ เพื่อลงนามสัญญาร่วมลงทุนภายในเดือน ส.ค.2562 และต่อมาคณะกรรมการคัดเลือกฯ มีมติให้วันที่ 9 ก.ย.2562 เป็นวันสิ้นสุดการเจรจาร่างเอกสารแนบท้าย

คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ประชุมเจรจาเกี่ยวกับประเด็นที่เจรจาไม่เสร็จในวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีข้อสรุปในประเด็นที่ยังเจรจาไม่แล้วเสร็จ และให้นำข้อสรุปดังกล่าวไปปรับแก้ร่างเอกสารแนบท้ายของร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ ให้สอดคล้องกับข้อสรุปที่ได้จากที่ประชุมดังกล่าวให้สมบูรณ์

ต่อมาคณะกรรมการคัดเลือกฯ ประชุมวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา และส่งหนังสือถึงกิจการร่วมค้าฯ วันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีมติเห็นชอบและส่งร่างเอกสารประกอบด้วย

ร่างเอกสารแนบทท้ายสัญญาร่วมลงทุนหมายเลข 3 (อัตราค่าโดยสาร) 

ร่างเอกสารหมายเลข 6 (แผนการส่งมอบพื้นที่) 

ร่างเอกสารหมายเลข 12 (ข้อกำหนดดัชนีชี้วัด) 

รวมทั้งเอกสารแนบท้ายอื่นบางส่วน ซึ่งไม่มีการเจรจาเอกสารแนบท้ายอีก และกำหนดให้กิจการร่วมค้าฯ ส่งหนังสือเพื่อตกลงและยอมรับให้ใช้ร่างเอกสารแนบท้ายทั้งหมดเป็นเอกสารแนบท้ายร่างสัญญษเพื่อลงนาม

โดยให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ส่งหลังสือเพื่อตกลงและยอมรับภายในวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเวลาเพียง 3 วัน นับจากได้รับหนังสือถือว่าเป็นระยะเวลาสั้นมาก

กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ไม่อาจเห็นพ้องกับมติคณะกรรมการคัดเลือกฯ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา และขอชี้แจงเหตุผลดังนี้

1.การกำหนดวันเวลาสิ้นสุดเจรจาร่างเอกสารแนบท้ายสัญญาร่วมลงทุน ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ตระหนักดีว่า การกำหนดวันเวลาสิ้นสุดเจรจาเป็นกรอบเวลาที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากข้อมูลที่ ร.ฟ.ท.มีอยู่ไม่สมบูรณ์ ยังไม่สามารถรวบรวมได้ครบ ข้อมูลที่มีอยู่ไม่เป็นข้อมูลในปัจจุบัน และมีประเด็นที่ยังหาข้อมสรุปไม่ได้เกี่ยวกับแผนการส่งมอบพื้นที่โครงการ ค่าใช้จ่ายในการรื้อย้าย ข้อกำหนดเรื่องดัชนีชี้วัด อัตราค่าโดยสาร

2.เอกสารที่ส่งให้กิจการร่วมค้าฯ บางส่วนในส่วนที่สำคัญไม่เป็นไปตามแนวทางที่กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ และผู้แทนคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ตกลงกันเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ประกอบกับเอกสารที่ส่งมาให้ยังไม่ครบถ้วนและพร้อมสำหรับการตรวจสอบความสมบูรณ์ของเอกสารแนบท้ายของร่างสัญญาร่วมลงทุนทั้งหมด

ผลการประชุมเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา สรุปหลักการและแนวทางเพื่อปรับแก้เอกสารแนบท้ายร่างสัญญาร่วมลงทุนให้สอดคล้องกับข้อสรุปจากที่ประชุม ดังนี้

ร่างเอกสารแบท้ายสัญญาร่วมลงทุนหมายเลข 3 (อัตราค่าโดยสาร) ที่ประชุมเห็นชอบให้ตัดหมายเหตุเรื่องอัตราแรกเข้าในเอกสารแนบท้ายออก เนื่องจากอัตราค่าแรกเข้าไม่มีการระบุในเอกสารคัดเลือกเอกชนและไม่มีการตกลงร่วมกันมาก่อน

ร่างเอกสารแนบท้ายสัญญาหมายเลข 6 (แผนการส่งมอบพื้นที่ของโครงการ) ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันให้การส่งมอบพื้นที่และการกำหนดระยะเวลาการส่งมอบพื้นที่ที่ปราศจากภาระติดพัน อุปสรรคและสิ่งกีดขวางในการก่อสร้าง แต่เนื่องจากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สมบูรณ์ ไม่ครบถ้วนและยังไม่ปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน ทำให้ ร.ฟ.ท.ทำแผนการส่งมอบด้วยความยากลำบากและใช้เวลานานเกินกว่าที่ประมาณการ ที่ประชุมจึงพิจารณาให้หาทางออกการทำแผนส่งมอบพื้นที่

ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้สอบถามกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ในการประชุมวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา เรื่องประมาณการค่าใช้จ่ายเงิน 2,800 ล้านบาท ที่ระบุในข้อเสนอของกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ขอชี้แจงว่า ค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายประมาณการสำหรับการดำเนินโครงการในส่วนงานปรับปรุงพื้นที่ของโครงการทั่วไปก่อนเริ่มก่อสร้าง และยินยันว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ใช่ค่าใช้จ่ายการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างสิ่งกีดขวางหรืออุปสรรค รวมถึงตอม่อและเสาโฮปเวลล์ เพราะกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะประเมินค่าใช้จ่าย

กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ รายงานความคืบหน้าด้านการเงินที่เอกชนคู่สัญญาได้รับข้อเสนอและคำแนะนำตลอดจนมาตรการที่ต้องการขอการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น การให้หรือออกหลักประกันการจ่ายเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงบชการ (Public Investment Cost) เพื่อที่สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศพิจารณาสนับสนุนการระดมทุนและสินเชื่อมให้โครงการมี Bankability  ในการดำเนินโครงการให้สำเร็จนั้น คณะกรรมการคัดเลือกฯ ให้ความเห็นว่ารับทราบประเด็นด้านการเงินดังกล่าวและมอบให้ตัวแทน กพอ.นำไปเสนอ กพอ.พิจารณามาตรการสนับสนุน

กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ขอเรียนว่า ไม่สามารถส่งหนังสือเพื่อตกลงตามที่กำหนดภายในวันที่ 19 ก.ย.2562 เวลา 15.00 น.ได้ และไม่สามารถยืนยันให้ใช้ร่างเอกสารแนบท้ายทั้งหมดเป็นเอกสารแนบท้ายร่างสัญญาร่วมลงทุน เพื่อลงนามระหว่างคู่สัญญาได้ รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับมติคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่กำหนดวันสิ้นสุดเจรจาเอกสารแนบท้ายทั้งที่ยังไม่มีความสมบูรณ์ และยังไม่ได้ปรับปรุงให้พร้อมสำหรับการลงนามตามมติคณะกรรมการคัดเลือกฯ 

จึงขอให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ สั่งการให้ส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนพร้อมเอกสารแนบท้ายทั้งหมดที่ขาดอยู่ และให้แก้ไขให้ครบ เพื่อกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ จะได้ตรวจสอบว่าเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง และเมื่อ ร.ฟ.ท.และกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ เห็นชอบว่าถูกต้องครบถ้วนแล้ว ผู้แทนของคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย ต้องลงนามกำกับเพื่อยืนยันว่าสัญญาร่วมทุนพร้อมเอกสารแนบท้ายทั้งหมดเป็นชุดที่ถูกต้อง พร้อมที่จะใช้เป็นสัญญาร่วมลงทุน โดยทั้ง 2 ฝ่าย จะลงนามวันที่กำหนดร่วมกัน

จากกระบวนการและเอกสารที่ต้องเตรียมทั้งหมด สมาชิกของกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ คาดว่าต้องใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ หลังจากสรุปร่างสัญญาและร่างเอกสารแนบท้ายทั้งหมดในการดำเนินการต่างๆ ที่จำเป็นก่อนลงนาม ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างสมบูรณ์เรียบร้อย คณะกรรมการคัดเลือกฯ และกิจการร่วมค้าฯ ควรร่วมกันกำหนดวันลงนาม