ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ดี และคล้ายปี 2012 จะช่วยประคองบรรยากาศของตลาดเอเชีย

ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ดี และคล้ายปี 2012 จะช่วยประคองบรรยากาศของตลาดเอเชีย

ตลาดตอบรับความเสี่ยงเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

หุ้นยุโรปรับลดลงจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ Brexit ซึ่งสถานการณ์นำไปสู่โอกาสยุบสภาเลือกตั้งใหม่ และทำให้ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ Brexit ยาวไปกว่ากำหนดการเดิม 31 ต.ค. ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงจากความยิดเยื้อสงครามการค้าและการที่จีนยื้นคำร้องต่อองค์การค้าโลก รวมถึงดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ส.ค. ที่ลดลงสู่ระดับ 49.1 จากก.ค.ที่ระดับ 51.2 และถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ม.ค.59 ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี

สถานการณ์เศรษฐจีนโดยรวมคล้ายปี 2012 เราประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วง 4 เดือนสุดท้าย คล้ายคลึงกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจช่วงปี 2012 ซึ่งแม้ PMI ทางการผลิตจะอ่อนตัวลงในทุกภูมิภาค แต่หากพิจารณาดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ (Leading Indicator) ซึ่งคิดคำนวณปัจจัยหลากหลาย รวมทั้งการจ้างงาน ค่าแรง และภาวะเศรษฐกิจในประเทศ จะพบว่า แนวโน้มของดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจีนปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ตัวเลขของยุโรปและสหรัฐฯ ชะลอตัวลง ซึ่งในสถานการณ์ดังกล่าว ดัชนีหุ้นเอเชียไม่นับญี่ปุ่น (MSCI Asia Ex.Japan) เคลื่อนไหวเพียงแกว่งตัว และไม่ทำจุดสูงสุดใหม่

แนวโน้มผลประกอบการยังจำกัดอัพไซด์ของตลาด คาดการณ์ผลประกอบกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนปรับลดลงต่อเนื่องจากต้นปี 100.73 หรือลดลง 13% YTD ขณะที่กำลังซื้อมีแนวโน้มชะลอตัวจากทั้งภัยแล้งและอุทกภัย แม้อาจกระทบการชำระหนี้และคุณภาพลูกหนี้ไม่มากนัก แต่มีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและกำไรของกลุ่มธนาคาร

Theme การลงทุนเน้นหุ้นได้ประโยชน์จากน้ำมันถูก/ และเศรษฐกิจจีนไม่แย่ คาดส่งผลดีต่อ โรงกลั่น และกลุ่มที่มีผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเป็นต้นทุน อาทิ BJC, BGC, DCC, EPG เป็นต้น ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวบวกต่อการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว อาทิ MINT, ERW, CENTEL

เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน ยังเน้นหุ้นที่ Valuation ถูก หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ WHAUP, GUNKUL*, BCPG, EASTW*, BJC*, CPF, TU, GFPT, CPN, NNCL*, MFEC* เป็นต้น // เก็งกำไร นิคมอุตสาหกรรม EHA, AMATA / หุ้นเล็ก AQUA*, EPCO*, VL* / เดินเรือ TTA*, PSL* / การสนับสนุน B10 ดีต่อ GGC, AIE และ EA

ภาพรวมกลยุทธ์: คาดตลาดแกว่งตัว 1640-1670 จุด ไม่หลุด 1624 จุด ยังรักษาโมเมนตัมในการแกว่งขึ้น เน้นเลือกหุ้นที่ปรับลดลงมามาก และมีปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัว อาทิ โรงกลั่น เดินเรือ // หุ้นแนะนำวันนี้ GGC*, CPN / เก็งกำไร TTA* (เป้า 7, ตัดขาดทุน 5.60), EPG* (เป้า 8.20, ตัดขาดทุน 7)

แนวรับ 1639-1646 จุด / แนวต้าน : 1650 สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

อสังหาฯแห่'ลดเป้า'รายได้ ภาวะไม่เอื้อ - "เสนาฯ" หั่นรายได้ปีนี้ลง 25% เหลือ 6 พันล้าน ยังมั่นใจกำลังซื้อครึ่งปีหลัง ดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะ "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" ลดเปิดโครงการใหม่ พร้อมเล็งขายเงินลงทุนดันรายได้ ด้าน "ชีวาทัย" หวังรัฐลดภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือ 0.1% ปลุกตลาดฟื้น

EGCO - "เอ็กโก" ยอมรับศึกษาแผน แตกพาร์  แต่ยังไร้ ข้อสรุป  พร้อมคาดกำไรการดำเนินงานปีนี้โต 6% จากปีก่อน แม้ปิดซ่อมโรงไฟฟ้าช่วงปลายปี เล็งจ่ายไฟเข้าระบบช่วงครึ่งปีหลังเพิ่ม 2 โครงการ หนุนกำลังการผลิตแตะ 5,530 เมกะวัตต์

TMBฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับแนวโน้มเครดิต TMB เป็นบวก จากมีเสถียรภาพ พร้อมให้เครดิตพินิจเป็นบวก จากแผนควบรวมกับธนาคารธนชาต ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จในธ.ค.

ค่าระวางเรือ - ดัชนี BDI ปิดล่าสุดที่ 2,501.00 จุด เพิ่มขึ้น 59.00 จุด, +2.42%

ประเด็นติดตาม: 4 ก.ย. – US Trade balance เดือน ก.ค., 6 ก.ย. – EU GDP 2Q62

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)