‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ที่ 30.59 บาทต่อดอลลาร์
ตลาดทุนทั่วโลกถูกปกคลุมด้วยความวุ่นวายของการเมืองอังกฤษและเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอตัว ระยะสั้น สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ฟื้นตัวขึ้น เงินบาทกลับมาแข็งค่า แต่ยังต้องระวังตลาดอาจปิดรับความเสี่ยง ถ้าเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ30.59 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ30.67 บาทต่อดอลลาร์
ในคืนที่ผ่านมาตลาดทุนทั่วโลกถูกปกคลุมด้วยความวุ่นวายของการเมืองอังกฤษดัชนีFTSE100 ของอังกฤษและดัชนีSTOXX50 ของยุโรปปรับตัวลดลง0.2% และ0.3% ตามลำดับ
ขณะเดียวกันS&P500 ของสหรัฐก็ปรับตัวลง 0.7% ซึ่งเป็นผลมาจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมการผลิต(ISM Manufacturing PMI) ประจำเดือนสิงหาคมปรับตัวลดลงสู่ระดับ49.1จุดหมายความว่าภาคการผลิตในสหรัฐ“หดตัว” ครั้งแรกในรอบ3ปีแล้ว
สภาวะดังกล่าวส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ10ปีปรับตัวลง4bps สู่ระดับ1.46% ราคาทองคำปรับตัวขึ้น1.9% แตะระดับ1,548 ดอลลาร์ต่อออนซ์ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ก็ปรับตัวลง0.6% เช่นกัน
โดยในระยะสั้นสกุลเงินตลาดเกิดใหม่(Emerging Markets) ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แทบทั้งหมดส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นตามด้วยเราเชื่อว่าเหตุผลหลักมาจากภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐที่เริ่มชะลอตัวลงซึ่งจะกดดันให้บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวลดลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ดีนักลงทุนก็ควรระวังว่าตลาดอาจปิดรับความเสี่ยงถ้าเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงซึ่งภาวะดังกล่าวจะหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่ากลับในช่วงสั้นได้ทันทีโดยกรณีที่สกุลเงินEM จะแข็งค่าได้ในระยะยาวต้องเป็นช่วงที่พื้นฐานของเงินดอลลาร์อ่อนแอลงหรือเมื่อเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าฟื้นตัวได้ก่อนสหรัฐ
มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้30.55-30.65 บาทต่อดอลลาร์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ผวาสงครามการค้าสหรัฐ-จีนแรงขึ้นฉุดดาวโจนส์ทรุดกว่า600จุด
-นักเศรษฐศาสตร์คาดอีก 2 ปีเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
-ตลาดหุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทาง
-'โกลด์แมน แซคส์'เตือนสงครามการค้าฉุดศก.สหรัฐถดถอย