แกว่งตัว รอปัจจัยใหม่

แกว่งตัว รอปัจจัยใหม่

ความคาดหวังการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีนที่จะจัดขึ้นในเดือนก.ย.รวมถึงแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม ECB และ FOMC ในช่วงกลางเดือนนี้จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดในช่วงถัดไป

ลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์: SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น +15.78 จุด (+0.96%) ปิดที่ระดับ 1,654 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ Tradewar ที่ผ่อนคลายมากขึ้นหลังสหรัฐ-จีนกำลังหารือเพื่อเจรจารอบใหม่ในเดือนก.ย. รวมถึงแรงซื้อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีตามราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางดัชนี ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 33 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 6,010 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX จำนวน 18,879 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,645 - 1,660 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะถูกแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวหลังสหรัฐ-จีนเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าตามแผนมีผล 1 ก.ย.ที่ผ่านมาโดยสหรัฐเก็บภาษี 15% มูลค่า 1.25 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนจีนเก็บภาษี 5% จากการนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานและดัชนี อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีนที่จะจัดขึ้นในเดือนก.ย.รวมถึงแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม ECB และ FOMC ในช่วงกลางเดือนนี้จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดในช่วงถัดไป

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มเดินเรือ (PSL, TTA ) ค่าระวางขึ้นทำ High ในรอบ 9 ปีล่าสุด 2,378 จุด
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, THANI) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง รวมถึง sentiment บวกจากธปท.ยังไม่นำมาตรการคุมภาระหนี้ต่อรายได้สูงสุด (DSR limit) มาใช้ในปีนี้
  • หุ้น Defensive stock (INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TPCH, TTW, CPALL)

หุ้นแนะนำวันนี้ : PTG (ปิด 21.5 ซื้อเก็งกำไร/เป้า IAA Consensus 23.5 บาท) ได้ Sentiment จากข่าวกบง.กำหนดให้น้ำมันดีเซล B10 เป็นน้ำมันเกรดมาตรฐานแทน B7 คาดหนุนความต้องการใช้ไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นมอง PTG ได้ประโยชน์มากสุดเพราะมีสถานีบริการเป็นของตนเอง ทำให้มีดีมานด์รองรับ และไม่ถูกกดราคาจากผู้ซื้อตามมาตรา 7 (กลุ่มสถานีบริการ), KKP (ปิด 72.5 ซื้อ/เป้า 77 บาท) ได้ Sentiment บวกจากข่าวแบงก์ชาติยังไม่บังคับใช้เกณฑ์ DSR limit ในปีนี้ เป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารโดยเฉพาะธนาคารขนาดเล็ก ด้านผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว ธุรกิจหลักทรัพย์ (ภัทร) ที่เคยถ่วงในครึ่งปีแรกจะกลับมาหนุนกำไรจากงาน IB ที่เพิ่มขึ้น

KSS report วันนี้: Global Strategy (ตัวเลขช่วยปลอบใจ)

ประเด็นสำคัญวันนี้:

  • (+/-) เดือน ก.ย.เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET ผันผวนในกรอบ 1,600 -1,680 จุด กลยุทธ์เน้นกลุ่มธุรกิจที่ยังอยู่ในช่วง High season, ได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ Top pick - AMATA, BCH, CHG, CPF และ ERW : SET Index เดือน ส.ค.ลดลง 3.3% แต่พอร์ตการลงทุนของเราให้ผลตอบแทน 4.2% ดีกว่าตลาด โดยมีหุ้น AMATA ให้ผลตอบแทนดีสุดที่ 10.8% แนวโน้มเดือน ก.ย. คาด SET Index จะผันผวนในกรอบ 1,600-1,680 จุด ครึ่งเดือนแรกจะยังผันผวนจากความเสี่ยงเดิมของเดือน ส.ค.ยังคงอยู่ อาทิ Trade war (1 ก.ย. จีนสหรัฐเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันรอบใหม่) และ กังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตามเราคาดว่าช่วงครึ่งเดือนหลังดัชนีจะกลับมาฟื้นตัวได้ คาดหวังปัจจัยลบเริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะ Trade war จีนสหรัฐน่าจะเห็นพัฒนาการทางบวกมากขึ้น, Fed เดินหน้าลดดอกเบี้ยตามคาด, ปมคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะกระจ่างขึ้น ขณะที่นักลงทุนจะเริ่มเข้าเก็งกำไรงบ 3Q19 กลยุทธ์ยังเป็น Selective buy เน้นกลุ่มธุรกิจที่ยังอยู่ในช่วง High season (โรงพยาบาลและส่งออกอาหาร) ซึ่งงบ 3Q19 จะออกมาดี, และกลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ (ค้าปลีก,นิคมฯ และท่องเที่ยว) Top pick เดือน ก.ย. AMATA, BCH, CHG, CPF, และ ERW
  • (-) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - น้ำมันดิบร่วงแรงกว่า 1.6 เหรียญฯผิดหวังซาอุฯลดการผลิตน้อยกว่าที่ตกลงไว้ : เป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มธุรกิจน้ำมัน โรงกลั่นและ ปิโตรฯ หลังจาก รมว.พลังงานของซาอุฯออกมาระบุว่าในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมารัสเซียปรับลดกำลังการผลิตน้อยกว่าที่ตกลงไว้กับกลุ่ม OPEC ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมากลุ่ม OPEC + Non OPEC มีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลไปจีนถึงสิ้นปี 2019 แบ่งเป็น OPEC 8 แสนบาร์เรล และ Non OPEC (รัสเซีย) 4 แสนบาร์เรล
  • (+) กลุ่มธุรกิจไบโอดีเซล – กบง.เห็นชอบให้น้ำมันดีเซล B10 เป็นน้ำมันเกรดมาตรฐานแทน B7 คาดหนุนความต้องการใช้ไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น : ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบให้น้ำมันดีเซล B10 เป็นน้ำมันเกรดมาตรฐานแทน B7 เริ่มบังคับใช้ 1 ม.ค.2020 และออกมาตรการจูงใจโดยกำหนดราคา B10 ให้ต่ำกว่า B7 ที่ 2 บาทต่อลิตร แต่ลดส่วนต่างของน้ำมัน B20 ให้ต่ำกว่า B7 ลงจากเดิม 5 บาทเป็น 3 บาท เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.ปีนี้ การปรับเพิ่มมาตรฐานของน้ำมันจาก B7 เป็น B10 เท่ากับเป็นการเพิ่มความต้องการใช้ไบโอดีเซล (B100) ให้เพิ่มขึ้น เป็นบวกต่อผู้ประกอบการ อาทิ PTG GGC และ EA  โดยเฉพาะ PTG คาดว่าจะได้ประโยชน์มากสุดเพราะมีสถานีบริการเป็นของตนเอง ทำให้มีดีมานด์รองรับ และไม่ถูกกดราคาจากผู้ซื้อ(ปั๊มน้ำมัน)