น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลง

น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลง

ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดวันพฤหัสบดี(22ส.ค.) ปรับตัวลงจากความกังวลทางอุปสงค์ ขณะที่หุ้นวอลล์สตรีทผันผวนและทองคำปรับตัวลงแรง หลังพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเกิดภาวะ inverted yield curve หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาวรอบใหม่

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 33 เซ็นต์ ปิดที่ 55.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 38 เซ็นต์ ปิดที่ 59.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 ส.ค. ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล แต่อีไอเอ ก็ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากสงครามการค้าจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดน้อยลง

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปีในเดือนส.ค. ขณะที่สงครามการค้ากำลังส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง

นอกจากนี้ ดัชนี พีเอ็มไอ ภาคการผลิตปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552

มาร์กิตเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ยอดขายจากการส่งออกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2552