การแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยกดดันทิศทางเงินทุน

การแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยกดดันทิศทางเงินทุน

ตลาดอาจผิดหวังการส่งสัญญาณดอกเบี้ยช่วงปลายสัปดาห์

ตลาดหุ้นเอเชียถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ และการอ่อนค่าของเงินหยวน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยังเป็นปัจจัยลบต่อทิศทางของเงินทุน (Fund flow) และทำให้ภาพรวมนักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นการขายสุทธิในตลาดส่วนใหญ่ ทั้งนี้เราประเมินตลาดอาจผิดหวังหากไม่มีสัญญาณของโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยจากรายงานการประชุมเฟดคืนนี้ (21 ส.ค.) และจากการประชุมประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole (23 ส.ค.)

ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมสัปดาห์หน้า ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.16 แสนล้าน ทั้งมาตรการช่วยภัยแล้ง กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามตลาดตอบรับข่าวดีไปล่วงหน้าแล้ว อีกทั้งมาตรการส่วนใหญ่ต้องใช้ระยะเวลาอีก 1-2 เดือน จึงจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3/62 มีโอกาสได้รับผลกระทบจากทั้งภัยแล้งและการส่งออกที่ชะลอตัวลงต่อ ทั้งนี้ติดตามการรายงานตัวเลขส่งออกวันนี้ หากติดลบมากกว่า concensus คาดที่ 2.05% อาจเป็นปัจจัยกดดันตลาดช่วงสั้น

การเข้าระดมทุนของหุ้นใหม่ๆจะบังคับให้ตลาดเกิดแรงขายเพื่อหมุนหุ้น ในครึ่งปีหลังจะมีบริษัทจำนวนมากเข้าระดมทุน ได้แก่ แอสเส็ทเวิลด์ (AWC), เซ็นทรัล รีเทลล์ (CRC), บริหารสินทรัพย์กรุงเทพ (BAM) นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มทุนของ GPSC ซึ่งเม็ดเงินระดมทุนในช่วงครึ่งหลังของปีรวมกันมีโอกาสสูงเกินกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งมีโอกาสทำให้นักลงทุนต้องต้องจัดสรรเม็ดเงินลงทุนใหม่ โดยการลดน้ำหนักหุ้นเดิมและจองซื้อหุ้นที่จะเข้าใหม่ ซึ่งจะทำให้ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวในช่วง 4 เดือนสุดท้ายที่ 1590-1670 จุด

เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน ยังเน้นหุ้นที่ Valuation ถูก หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ WHAUP, GUNKUL*, BCPG, EASTW*, BJC*, CPF, TU, GFPT, CPN, NNCL*, MFEC* เป็นต้น / เก็งกำไร หุ้นเล็ก AQUA*, EPCO*, VL* / กลุ่มธนาคาร ลุ้นฟื้นจากประกาศปันผลระหว่างกาลช่วงกลาง ส.ค. SCB, BBL, KBANK โดยควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง

ภาพรวมกลยุทธ์: ตัวเลขส่งออกหากแย่กว่าคาดอาจกดดัน SET Index แกว่งลงทดสอบ 1610-1620 จุด แต่จะเป็นจังหวะซื้อลุ้นฟื้นตัว เน้น กลุ่มหุ้นปลอดภัย และหุ้นที่ Valuation ไม่แพงและลงมากมีโอกาสเป็นเป้าหมายการซื้อ  // หุ้นแนะนำวันนี้ WHAUP* เก็งกำไร TQM* (เป้า 50 ตัดขาดทุน 42.50), VL* (เป้า 2.00 ตัดขาดทุน 1.52), AQUA* (เป้า 0.80 ตัดขาดทุน 0.54)

แนวรับ 1631 จุด / แนวต้าน : 1645-1650 สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

BTS ทุ่มพันล้านซื้อ "RS" 7% - "บีทีเอส กรุ๊ป" ทุ่มเงินกว่า 1,000 ล้านบาท เข้าถือหุ้นใน "อาร์เอส" 68 ล้านหุ้น หรือ 7% ด้านเฮียฮ้อเผย เป็นการผนึกกำลังของสองค่าย หวังต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ

BEC มีโอกาสได้รับปัจจัยลบทางจิตวิทยาจากการที่อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร คุณประวิทย์ มาลีนนท์ รวมถึงผู้จัดละครหลายรายย้ายไปร่วมงานกับทาง PPTV ขณะที่งบไตรมาส 3/62 ต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายชดเชยเลิกจ้างพนักงาน

ค่าระวางเรือ - ดัชนี BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 2,059.00 จุด ลดลง 8.00 จุด, -0.39%

RATCH เข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ์ของบริษัทนวนครการไฟฟ้า (NNE) ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ 44.02% ที่ถือโดย TTCL มูลค่า 838.47 ล้านบาท หลังรายการแล้วเสร็จ RATCH จะถือหุ้น 99.97% ใน NNE ขนาดกำลังการผลิต 110MW

SUPERIF วันนี้เข้าซื้อขายในตลท.วันแรก

ประเด็นติดตาม: 22 ส.ค. ตัวเลขส่งออกไทย, FOMC meeting minute, US Manufacturing PMI (Aug), EU Manufacturing PMI (Aug)/ 22-23 ส.ค. - Jackson Hole summit

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)