กทท.ร่วมมือท่าเรืออินเดีย เชื่อมเส้นทางกลุ่มบิมสเทค

กทท.ร่วมมือท่าเรืออินเดีย เชื่อมเส้นทางกลุ่มบิมสเทค

การท่าเรือฯ ลงนามท่าเรืออินเดีย หวังลดต้นทุนโลจิสติกส์ระหว่างไทยและกลุ่มประเทศบิมสเทค ชี้ทำเวลาขนส่งลดลงจาก 10-15 วันเหลือ 7 วัน 

ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยหลังร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง กทท. (ท่าเรือระนอง) และ Navayuga Container Terminal ท่าเรือกฤษณาปัทนัม ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือกลุ่มประเทศบิมสเทคร่วมกับนาย Vinita Venkatesh ผู้อำนวยการ Navayuga Container Terminal ท่าเรือกฤษณาปัทนัม ว่า การเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือระหว่างไทยและกลุ่มบิมสเทคผ่านท่าเรือกฤษณาปัทนัมและท่าเรือระนองของไทย เชื่อว่าจะสามารถลดต้นทุนโลจิสติกส์ประมาณ 50% หรือครึ่งหนึ่ง จากเดิมใช้เวลาประมาณ 10-15 วัน เหลือไม่เกิน 7 วัน 

ขณะที่ปริมาณสินค้าระหว่างไทยและกลุ่มบิมสเทคมีอัตราเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 8% และหลังจากมีความร่วมมือแล้วเชื่อว่าจะขยายตัวได้ 9-10 % โดยสินค้าที่กลุ่มบิมสเทคนำเข้าจากไทยก็จะเป็นสินค้าเหล็ก น้ำมันปาล์ม วัสดุก่อสร้างอื่นๆ

สำหรับบันทึกความเข้าใจดังกล่าว เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างท่าเรือลักษณะ Port-to-Port Cooperation เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างท่าเรือทั้ง 2 แห่งในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการบริหารจัดการท่าเรือ การปฏิบัติการภายในท่าเรือ ส่งเสริมงานด้านการตลาดการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการท่าเรือ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารการเชื่อมโยงเครือข่าย ของท่าเรือ อุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจท่าเรือ 

ทั้งนี้ ทั้ง 2 ท่าเรือจะต้องจัดประชุมการดำเนินงานเชิงปฏิบัติการร่วมกันเป็นประจำทุก 2 ปี เพื่อผลักดันให้เกิดการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆ ภายใต้ความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งร่วมกันพิจารณาความเป็นไปได้ในการให้บริการขนส่งสินค้าโดยระบบตู้สินค้าระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมถึงระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ทางทะเลของทั้ง 2 ประเทศ