สงครามการค้ารุนแรง

สงครามการค้ารุนแรง

ดัชนีวานนี้ปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนอีกครั้ง

เนื่องจากมีแนวโน้มยืดเยื้อและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ล่าสุดจีนได้ทำการตอบโต้กลับ โดยการสั่งให้บริษัทของรัฐบาลระงับนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐ นอกจากนี้ เราเชื่อว่า Fund flow เริ่มไหลออกตลาด สะท้อนจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิกว่า 2.6 พันลบ. พร้อมกับค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,665.99 จุด (-18.72 จุด) Volume 4.8 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2.7 พันลบ. TFEX Net -13,934 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +1,465 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐในเดือนก.ค.ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 53 จากระดับ 51.5 ในเดือนมิ.ย.

+รมว.คลัง เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แพคเกจใหญ่ภายในส.ค. หวังผลต่อศก.โดยรวม

+บอร์ด EEC เห็นชอบร่างแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินใน 4 กลุ่ม 11 ประเภท

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 5.2 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.82 บาท/US

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 767.27 จุด -2.90% จากความกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจีนปล่อยให้หยวนอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี (ต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์) และประกาศระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 10% มีผล 1 ก.ย.

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 97 เซนต์ -1.7% ปิด 54.69 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

-MSCI จะเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีนขนาดใหญ่อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 5% ในเดือนส.ค.และพ.ย.เป็น 20% ซึ่งจะต้องลดน้ำหนักตลาดหุ้นเกิดใหม่รวมทั้งตลาดหุ้นไทย

*จับตาสหรัฐเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน และการประชุมครม.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงตามทิศทางตลาดโลก จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยจีนได้ปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี ประกอบกับประกาศระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ ส่วนปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มทยอยออกมา คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,645-1,660 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

SC Site Visiting (ราคาปิด 2.78 แนะนำถือรอรับเงินปันผล ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 3.47)

บริษัทได้พานักวิเคราะห์เข้าเยี่ยมชมโครงการ SCOPE ทำเลหลังสวน จำนวน 158 หน่วย มูลค่าโครงการเริ่มต้น 7,800 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยเริ่มต้นที่ระดับ 3 แสนบาทต่อตารางเมตรซึ่งต่ำกว่าราคาขายเบื้องต้นที่คาดไว้เมื่อต้นปีที่ระดับ 5 แสนบาทต่อตารางเมตร  SCOPE หลังสวนเป็น 1 ใน 2 โครงการที่พัฒนาโดยบจ. สโคปซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ล่าสุดโครงการมียอดขาย presale แล้วกว่า 2 พันล้านบาท จากจุดเด่นในการเป็น freehold และมีจุดเด่นในการออกแบบที่ ทำเลที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลมไม่มากนัก ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 25% ซึ่งถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับเป้ายอดขายในปีนี้ที่ราว 40% มีกำหนดโอนในปี 63

ความเห็น ผลการดำเนินงาน Q2 มีแนวโน้มแผ่วลงจากไตรมาสก่อน Bloomberg Consensus คาดกำไรในช่วง 2Q62 เฉลี่ย 272 -13.7%  ขณะที่คาดกำไรทั้งปี 62 เฉลี่ย 1,772 ล้านบาท -1% และ อย่างไรก็ดี ด้าน valuation ถือเป็นหุ้น yield ดี PE ต่ำ จากราคาหุ้นล่าสุดซื้อขายที่ PE ต่ำเพียง 6 เท่าเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 14 เท่า และ IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 6.5% แนะนำถือรอรับเงินปันผล

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30),หุ้น Mid-Small Cap. ที่คาดผลประกอบการ 2Q19 เติบโตดี (VL AMA TACC JUBILE SABINA NER), หุ้น Defensive Stock (EASTW TTW BCH CPALL BJC),หุ้น High Dividend (SIRI QH TISCO KKP ANAN)

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก

DOHOME | SET -หมวดพาณิชย์ (Commerce) ราคาเสนอขายหุ้นละ 7.80 บาท

ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายปลีก ส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน มีสินค้าทั้งหมด 135,000 รายการ และมีสาขาทั้งหมด 11 สาขา แบ่งเป็น สาขาขนาดใหญ่ 9 สาขา และ Dohome To Go 2 สาขา รวมทั้งมีศูนย์กระจายสินค้าที่จังหวัดปทุมธานี

ผลประกอบการงวด 1Q62 บริษัทมีกำไรเท่ากับ 247 ลบ. +33%YoY แม้มีรายได้ทรงตัวจากปีก่อนที่ราว 4.9 พันลบ. แต่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นจากที่ระดับ 15% สู่ 16.4% จากผลของการกลับรายการค่าเผื่อสินค้าล้าสมัย ขณะที่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาช่วงปี 2559-2561 บริษัทมีรายได้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.8 หมื่นลบ. และมีกำไรเท่ากับ 831 ลบ. 908 ลบ. และ 439 ลบ. ตามลำดับ โดยสาเหตุที่กำไรปี 61 ปรับตัวลดลง มาจาก %SG&A ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเตรียมความพร้อมการขยายธุรกิจ ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการนำหุ้นเข้าตลาด

ในการออกระดมทุนครั้งนี้ แบ่งเป็นหุ้นสามัญเดิม 1,400 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 456.16 ล้านหุ้น ที่ราคาพาร์ 1 บาท และราคาเสนอขาย 7.80 บาท มีมูลค่าการระดมทุนรวม 4,065 ลบ. โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และเพื่อการขยายธุรกิจโดยมีเป้าหมายทยอยเปิดให้ครบ 90 สาขาภายในปี 2564

ทั้งนี้ ตลท.เตรียมแขวนป้าย ST หุ้น DOHOME ในช่วงซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินจำนวน 56.16 ล้านหุ้น เริ่ม 6 ส.ค.-4 ก.ย.

หุ้นมีข่าว   

·      IRPC รายงานกำไร 2Q62 ที่ 507 ล้านบาท -87%YoY +131%QoQ โดยกำไรเติบโตเนื่องจากโรงกลั่น RDCC กลับมาเดินเครื่องจากที่หยุดซ่อมบำรุงในไตรมาสก่อน อีกทั้งค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากส่วนต่างน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวขึ้น และมีกำไรจากการป้องกันความเสี่ยงราว 5 ร้อยล้านบาทเข้ามาหนุนผลประกอบการ แม้ว่าธุรกิจปิโตรเคมีส่วนต่างระหว่างโพลีพรอพิลีนและแนฟทาจะปรับตัวลง และมีค่าใช้จ่ายสำรองผลประโยชน์พนักงานที่เพิ่มขึ้นราว 6 ร้อยล้านบาทเข้ามากดดัน

·      ADVANC รายงานกำไรสุทธิ 2Q19 ที่ 8,234 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษจากการสำรองเงินชดเชยตามกฎหมาย 636 ล้านบาท) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% YoY และ 8.1% QoQ โดยการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีสัญญาณที่ดีขึ้น ส่งผลให้ ARPU ของลูกค้าระบบรายเดือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 571 บาท หรือ 1.2 %QoQ โดย ADVANC ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 3.78 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.8% (XD:16/8/19)

·      PTT ชี้แจง PTTOR ยังเดินหน้าเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามแผน พร้อมปฏิเสธข่าวบอร์ดปตท.มีมติเบรก! ฟาก “สนธิรัตน์” ลั่นไม่ขวาง เตรียมเรียกผู้บริหาร PTTOR แจงแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในเดือนนี้ ชี้ต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศ พร้อมลุยแผนขับเคลื่อนนโยบาย 3 เดือนแรก (ที่มาข่าวหุ้น)

·      สำนักงาน ก.ล.ต.เข้าตรวจสอบข้อมูลของ “พีพี ไพร์ม”(PPPM) เผยผู้บริหารอาจถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จกรณีชำระหนี้หุ้นกู้ 260 ล้านบาท แนะผู้ลงทุนฯฟ้อง PPPM  ด้าน “ไทยพาณิชย์” หรือ SCB ยันเป็นแค่นายทะเบียน พร้อมเรียกเงินกลับจากผู้ถือหุ้นกู้ ย้ำการโอนเงินไปก่อนเป็นระบบอัตโนมัติ แต่ PPPM กลับผิดนัดชำระ(ที่มาข่าวหุ้น)

·      ANAN (ราคาปิด 3.42 บาท Bloomberg Consensus 4.63 บาท) เตรียมประชุมทบทวนแผนเปิดโครงการใหม่ของปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและสภาวะตลาด จากแผนเดิมเล็งเปิด 10 โครงการ มูลค่ารวม 38,000 ล้านบาท ขณะที่เดินหน้าพัฒนาเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เริ่มบุ๊กรายได้ประจำกว่า 400 ล้านบาท ในปีหน้า พร้อมตั้งเป้ารายได้ประจำโตกระโดดกว่า 1,800 ล้านบาท ในปี 65 หลังเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เสร็จครบ 5 โครงการ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      ALL ปลื้มโครงการ ดิ เอ็กเซล ลาดพร้าว-สุทธิสาร พรีเซลวันเดียวกวาดยอดขายแล้วกว่า 850 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 70% ของมูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Real Demand อย่างแท้จริง (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      BGRIM (ราคาปิด 34.5 บาท Bloomberg Consensus 36.59 บาท) เผยย้ายโรงไฟฟ้าไปอ่างทองตามแผน พร้อมเดินหน้าก่อสร้าง SPP Replacement 5 โครงการ คงแผน COD ปลายปี 2565 มั่นใจครึ่งหลัง COD โรงไฟฟ้าลมเพิ่ม คาดสิ้นปีมีกำลังผลิตไฟฟ้ากว่า 3000 เมกะวัตต์ จ้องซื้อโรงไฟฟ้า SPP เข้าพอร์ต เล็งลงทุนโครงการพลังงานในเวียดนาม มาเลเซีย เกาหลี คาดชัดเจนภายในปีนี้ ขานรับนโยบายรัฐหนุนพลังงานสะอาด (ที่มา ทันหุ้น)

·      PYLON (ราคาปิด 6.10 บาท Bloomberg Consensus 7.98 บาท) จับตาครึ่งหลังจ่อเซ็นสัญญางานใหม่เพียบ คาดปริมาณงานภาครัฐทยอยเข้าตั้งแต่ไตรมาส 4/2562 กินยาวถึงปี 2563 พร้อมโชว์ Backlog รอส่งมอบ 960 ล้านบาท รับรู้ปีนี้กว่า 80% มั่นใจรายได้ยังเข้าเป้าโต 15% (ที่มา ทันหุ้น)

·      MCS คว้างานใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดรับเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 33,000 ตัน เล็งอัพกำลังผลิตแตะ 100,000 ตันต่อปี รองรับออเดอร์เพิ่ม ด้านโบรกประเมิน Backlog จะสูงถึง 1.5 แสนตัน เทียบกับสิ้นปี 2561 เล็งปรับเพิ่มประมาณการกำไร ราคาหุ้นยังมี Upside 12.5% จากมูลค่าพื้นฐาน 9 บาท ขณะที่เดือนสิงหาคมนี้น่าจะมีการกลับมาจ่ายปันผลระหว่างกาลได้ตามปกติ และคาดหวัง Yield 6% ต่อปี (ที่มา ทันหุ้น)

·      CHAYO (ราคาปิด 4.92 บาท ราคาเหมาะสม 5.00 บาท) ผบห.ชี้ธุรกิจโตทุกกลุ่ม เดินเกมซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารในไตรมาส 3/62 มูลค่า 5-8 พันล้านบาท ดันยอดตามเป้าหมื่นล้านบาท การันตีผลงานโต 15% เตรียมประชุมบอร์ดเคาะงบไตรมาส 2/62 ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ (ที่มา ทันหุ้น)