บาทอ่อน

บาทอ่อน

ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงแรง หลังจาก ธปท.ออกมาตรการเฝ้าระวังเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น เพื่อรักษาระดับค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่า

ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคยังคงแกว่งตับในกรอบแคบๆ พร้อมกับจับตาผลการประชุมของเฟดที่จะเกิดขึ้นปลายเดือนนี้ ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิลดลงเหลือเพียง 457.1 ลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,731.59 จุด (-8.86 จุด) Volume 7.1 หมื่นลบ. TFEX Net -8,433 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -912 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 243.95 จุด +0.90% ที่ 27,332.03 จุด จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนนี้ หลังมีการเปิดเผยดัชนี PPI +0.1%MoM +1.7%YoY ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ

+ราคาน้ำมันดิบ WTI +1 เซนต์ + 0.02% ปิดที่ 60.21 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นไม่มาก เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันดิบส่วนเกินทั่วโลก

+FedWatch บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค.

+จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยครม.ชุดใหม่

+Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 5.7 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.93 บาท/US

-จีนเตรียมคว่ำบาตรบริษัทสหรัฐ ตอบโต้การขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน

-จีนเผย GDP Q2 ขยายตัว 6.2% ต่ำสุดในรอบ 27 ปี เหตุสงครามการค้ากระทบศก.

-ธปท.ออกมาตรการเฝ้าระวังเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น หลังเงินบาทแข็งค่าเร็วส่งผลกระทบเศรษฐกิจโดยรวม

*จับตาจีนเปิดเผย GDP 2Q62 /สหรัฐเปิดเผย ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลง แม้มีปัจจัยบวกดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้เฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้มากขึ้น แต่ตลาดยังคงถูกกดันจากมาตรการสกัดเงินร้อนของธปท.ส่งผลให้เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่า ส่งผลให้ Fund Flow ชะลอตัว คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,724-1,735 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30 ORI), หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ (STEC CK STPI) ,หุ้นกลุ่มเดินเรือ (TTA PSL RCL AMA) , หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าหลังธปท.ออกมาตรการสกัดเงินร้อน (HANA DELTA KCE)

หุ้นรายงานพิเศษ

EKH Analyst meeting (มุมมองบวก อยู่ระหว่างจัดทำบทวิเคราะห์)

  • โรงพยาบาลเอกชัย เป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในจังหวัดสมุทรสาคร มีห้องตรวจ 38 ห้องตรวจ และมีห้องผู้ป่วยใน 80 ห้อง โดยรายได้ปี 56-61 เติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 363 ล้านบาทสู่ 654 ล้านบาท หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ย 5% โดยมีสัดส่วนรายได้หลักจากแผนกฉุกเฉิน กุมารเวช และการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
  • มีการขยายงานอย่างต่อเนื่อง 3Q61 เปิดศูนย์ทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) 2 ศูนย์พระราม9 และโรงพยาบาลเอกชัย และในส.ค. นี้มีการเปิดตึกใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของผู้ป่วยเด็ก มีห้องผู้ป่วยให้บริการ 60 ห้องซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้ป่วยเด็กได้เพิ่มขึ้น
  • ผลการดำเนินงาน 1Q62 อยู่ที่ 7 ล้านบาท +103%YoY และ 63%QoQ เนื่องจากอัตราการครองเตียงเพิ่มขึ้นจาก 77% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนสู่ 85% ในไตรมาส 1/62 และการรักษาผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นจาก 3.07 หมื่นครั้งในช่วงเดียวกันของปีก่อนสู่ 3.13 หมื่นครั้งในไตรมา 1/62
  • คาดผลประกอบการใน 2Q62 จะอ่อนตัวลง QoQ แต่จะเพิ่มขึ้น YoY จากอัตราการครองเตียงที่ปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีการรับรู้รายได้จากศูนย์ IVF ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนรายได้ให้มีการเติบโตจากโรงพยาบาลเดิม แต่กำไรสุทฺธิหลักยังมาจากโรงพยาบาลเดิมเพราะศูนย์ IVL มีการขยายบุคลากรและพื้นที่เพิ่มเตืม

ส่องหุ้น

         ATP30   แนวรับ 1.44 , 1.42-1.41 บาท     แนวต้าน 1.49 บาท

         ACG      แนวรับ 1.55 , 1.52-1.51 บาท     แนวต้าน 1.59 บาท

         WORK    แนวรับ 29.00 บาท                    แนวต้าน 30.25 , 32.00 บาท

หุ้นมีข่าว   

·      ฝ่ายวิจัยสำรวจประมาณการผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารในงวด 2Q62 โดยรวมจะปรับลดลงเมื่อเทียบ YoY และ QoQ

·      (-) PACE ปิด 2 สาขาร้านดีน แอนด์ เดลูกาในสหรัฐ  โดยนสพ.นิวยอร์ก ไทม์รายงานว่าร้านอาหารและเครื่องดื่มดีน แอนด์ เดลูกา (Dean & DeLuca)ในสหรัฐได้ปิดสาขา 2 แห่งจาก 9 แห่งในสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากประสบปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้น  ทั้งนี้ PACE ได้ซื้อกิจการดีนฯในปี 2557 เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง อย่างไรก็ดีธุรกิจดังกล่าวประสบภาวะขาดทุนเพิ่มขึ้นจาก 11 ล้านดอลลาร์ เป็น 158 ล้านดอลลาร์แล้วนับตั้งแต่เข้าซื้อกิจการ (ที่มา อินโฟเควสท์)

ความเห็น หุ้น PACE ถูกขึ้นเครื่องหมาย “C” เนื่องจาก ณ สิ้นงวด 1Q62 ยังมีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว (9%) ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างธุรกิจร้านดีน แอนด์ เดลูก้าและแสวงหาโอกาสพลิกฟื้นธุรกิจผ่านช่องทางขายแฟรนไชส์ รวมทั้งหาแหล่งรายได้ในรูปแบบ B2C และ B2B ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯบริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการนิมิตหลังสวนและวินเชลล์-นราธิวาสช่วงสิ้นปี 2562 ขณะที่งวด 1Q62 มีผลการดำเนินงานขาดทุน 317 ลบ.

·      PTTEP (ราคาปิด 136.00 บาท Bloomberg Consensus 149.89 บาท )ปรับแผน 5 ปี เพิ่มเงินลงทุนเป็น 6.85 แสนล้านบาท พร้อมขยับเป้าการผลิตปีนี้แตะ 3.45 แสนบาร์เรล/วัน และอัพปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยขึ้น 8.5% นอกจากนี้คาดปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันของปี 62-66 เพิ่มขึ้น 7% (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      DTAC (ราคาปิด 53.25 บาท Bloomberg Consensus 50.02 บาท ) แจ้งงบไตรมาส 2/62 วันนี้ ลุ้นกำไรสุทธิ 1,437 ล้านบาท โตกระฉูด 700% หลังสิ้นสุดสัมปทานกับ CAT ไม่ต้องบุ๊กค่าตัดจำหน่าย และรับรู้รายได้เช่าอุปกรณ์แก่ TOT-CAT ดันครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 2,845 ล้านบาท พุ่ง 90% (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      THANA มั่นใจงบปี 62 โตกว่าปีก่อน โชว์ตุนแบ็กล็อกกว่า 100 ล้านบาท พร้อมสต๊อก 1,600 ล้านบาท ลุยปรับกลยุทธ์เน้นระบายสต๊อก อัดแคมเปญ  (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      AIE ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก อานิสงส์รัฐสนับสนุนการใช้ B100 คาดปริมาณขายครึ่งปีหลังพุ่ง 12 ล้านลิตร/เดือน หนุนทั้งปี 62 ปริมาณขายแตะ 120 ล้านลิตร จ่อเดินเครื่องโรงกลั่นกลีเซอรีนบริสุทธิ์เดือน ส.ค.62 รุกตลาดต่อเนื่อง หวังเพิ่มกระแสเงินสดในมือ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      NCH ตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 3/62 ที่ 200 ล้านบาท เตรียมเปิดขายโครงการ “บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ทิวา ปิ่นเกล้า สาย 5” มูลค่า 750 ล้านบาท ล่าสุดตั้งบริษัทร่วมทุนพันธมิตร ลุยธุรกิจ Intermediate care และ Wellness (ที่มา ข่าวหุ้น)