'บิ๊กตู่' ลั่น 'รบ.ใหม่' เสร็จภายในก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.62 เวลา 09.30 น.ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส นำคณะเยาวชนไทยและผู้เข้าร่วมโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 12 รวม 200 คน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวให้โอวาทว่า ยินดีต้อนรับและดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่พบกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว สำหรับอาคารนี้เป็นอาคารหลังใหม่ เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้ว ใช้เวลาในการก่อสร้าง 2 ปี และเป็นครั้งแรกที่รับคณะเยาวชนในสถานที่แห่งใหม่นี้ เพราะปกติจะรับที่อาคารหลังเก่า(ตึกสันติไมตรี)ที่กำลังเตรียมการในเรื่องของพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษาอยู่

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้แม้ตนจะมีภารกิจหลายอย่าง แต่เห็นว่าการพบปะกับคณะเยาวชนก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะเยาวชนไทยและชาวไทยในสหรัฐอเมริกานั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย เราสามารถช่วยกันส่งเสริม สนับสนุนประเทศไทยให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปได้ นี่คือภาคประชาชน วันนี้ความเชื่อมโยงมีรัฐบาลต่อรัฐบาล เอกชนต่อเอกชน และประชาชนกับประชาชนด้วย ซึ่งตนคิดว่าประชาชนเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ที่จะสร้างความเข้าใจต่อไปในอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา เป็นชุมชนที่เข้มแข็งและใหญ่ที่สุด ซึ่งไทยและสหรัฐฯมีความสัมพันธ์ยาวนานมาถึง 286 ปี เป็นมิตรที่ดีกันมาตลอดและจากสนธิสัญญาฉบับแรกที่ทำกันไว้สหรัฐฯมีสิทธิต่างๆในการดำเนินการธุรกิจเท่าเทียมคนไทยทุกประการ นี่เป็นสนธิสัญญาเดิมที่มีไว้ เป็นชาติเดียวที่มีสัมพันธ์กับเราแบบนี้ ส่วนในเรื่องของการลงทุน สหรัฐฯมีการลงทุนในประเทศไทยมากกว่า 7,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ถือว่าสูง และมีการจ้างงาน 7 หมื่นกว่าคน มีร้านอาหารไทย 2 พันกว่าแห่ง มีนักศึกษาไทยประมาณ 7 พันคน มีคนไทยอยู่ประมาณ 5 แสนคน กระจายอยู่หลายรัฐ

นายกฯ กล่าวต่อว่า สถิติการลงทุนบีโอไอในประเทศไทยปีนี้ 3 แสนกว่าล้านบาท เป็นการลงทุนใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ เพิ่มความเข้มแข็ง เหล่านี้คือสิ่งที่เป็นความสัมพันธ์ที่ดีของไทยและสหรัฐฯ ดังนั้น ความเชื่อมโยงกับประชาชนวันนี้ ย่อมจะดีไปสู่วันข้างหน้าด้วย รัฐบาลยินดี เราอยู่ประเทศเดียวในโลกนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ก็ขอบคุณคนไทยและเยาวชนไทย ที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนงานของรัฐบาลที่ผ่านมา และรัฐบาลก็ต้องดูแลทั้งหมด ไม่ว่าอยู่ไหนเราก็คือคนไทย ซึ่งการที่คณะเยาวชนไทยและผู้ปกครองกลับมาเยือนไทยครั้งนี้ ตนถือเป็นโอกาสพิเศษด้วย เพราะปีนี้เป็นปีมหามงคลของประเทศไทย ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้จัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งประกอบพระราชพิธีอย่างสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี ที่เรายึดถือปฏิบัติมายาวนาน และถือเป็นพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ ดังนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มาเยี่ยมเยียนกัน และยังเป็นโอกาสดี ที่จะได้ร่วมกันเฉลิมฉลอง ร่วมกันถวายพระพรในโอกาสมหามงคลนี้ โดยเฉพาะเดือนนี้ถือเป็นเดือนของวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 ก.ค.นี้ด้วย

“ในเรื่องของการเมือง ประเทศไทยปีนี้ได้จัดการเลือกตั้งเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแม็พทุกประการ และมีพระราชพิธีในช่วงดังกล่าวด้วย เชื่อว่าทุกคนได้ติดตามข่าวสารอยู่เป็นระยะ เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และผมยืนยันว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้แน่นอน ตามโรดแม็พ คือพิธีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะถือเป็นการทำงานของรัฐบาลโดยสมบูรณ์” นายกฯกล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า เราจะสานต่อนโยบายสำคัญที่ดำเนินมาให้ลุล่วง และปีนี้ไทยเป็นประธานอาเซียนด้วย จึงต้องส่งเสริมให้อาเซียนก้าวไปด้วยกันสู่อนาคต ทุกประเทศเราต้องอยู่ร่วมกันอย่างพหุสังคม ไม่ว่าศาสนาใดก็ตาม ต้องอยู่ให้ได้ โดยปราศจากความขัดแย้ง และเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล ในการทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อเกียรติภูมิของประเทศไทย และเพื่อคนไทย เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ไม่ว่าอยู่ในประเทศไทย อยู่ในสหรัฐฯ หรืออยู่ส่วนใดของโลกก็ตาม ทุกคนจะได้มีที่ยืนอย่างมีศักดิ์ศรี สง่างาม

นายกฯ กล่าวว่า หลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร วันนี้ประเทศไทยก็เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลกเช่นกัน ปีที่แล้วมีคนมาเที่ยวประเทศไทย 38 ล้านคน ไม่เคยสูงเท่านั้นมาก่อน และปีนี้ก็คาดว่าจะสูงถึง 40 ล้านคนในอนาคต และหวังว่าการมาดูงานของพวกเราครั้งนี้ จะทำให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ก็ขอให้รักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ สร้างความคุ้นเคยกับแผ่นดินแม่มากๆ เราจะต้องไม่ลืมแผ่นดินเกิด ไม่ลืมหัวใจความเป็นไทย เหมือนคนไทยต้องไม่ลืมแผ่นดินไทยที่อยู่อาศัยมายาวนานหลายร้อยปี ต้องรักษาประเทศของเรา แกนหลักของเรา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้ยั่งยืน ยาวนานตลอดไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เราสามารถทำประโยชน์ได้จากทุกที่ ได้ความรู้สึกดีๆ หลายๆ อย่างจากสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะประธานาธิบดีใดก็ตาม ที่ผ่านมาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ในปัจจุบันก็ดีต่อเรา ในด้านการพูดคุย การค้าขาย การลงทุนต่างๆ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นเรื่องอื่นๆ ไป ระหว่างเราสองประเทศก็ไม่มีปัญหาอะไรกัน เพราะฉะนั้น อย่าลืมแผ่นดินไทย ถึงเราจะไปเกิดที่สหรัฐอเมริกาก็ตาม เราต้องช่วยคิดว่าจะมีส่วนในการพัฒนาประเทศไทยอย่างไร ในนี้อาจมีหลากหลายศาสนา ซึ่งเป็นอิสระในการนับถือ ถ้าทุกคนจิตใจดี ศาสนาใดก็เหมือนกันหมด ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี สอนให้คนรักสามัคคีกัน ไม่มีสอนให้คนขัดแย้งกัน เพราะฉะนั้นหากเราจะโตเป็นคนดีในสังคม ต้องมีจิตสำนึก เผื่อแพร่ แบ่งปัน โอบอ้อมอารีให้กัน และมีความรู้คู่คุณธรรม มีภูมิต้านทานในการดำรงชีวิต แล้วคุณธรรมจะเป็นตัวเสริมให้กับเราเพื่อจะสานประโยชน์ทั้งส่วนตนและส่วนรวม

นายกฯ กล่าวว่า ขอให้การเดินทางครั้งนี้เป็นไปด้วยความสำเร็จ อย่างที่ทุกคนวาดหวังตั้งใจ เพียงแต่เวลามันเปลี่ยน เจ็ตแล็ก(Jet lag) ก็มีเหมือนกันใช่หรือไม่ ตนก็เจ็ตแล็กเหมือนกัน ปกติตนเป็นคนขี้ลืม เซ็นหนังสือคนละวันไปหมด เพราะบางทีก็ทำงานลืมวันลืมคืน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์สอบถามสภาพอากาศที่สหรัฐอเมริกาว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคณะคนไทยตอบว่าอากาศดี พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า

“ประเทศไทยตอนนี้ก็ดีขึ้น อากาศเย็นลง มีฝนตกนิดหน่อย ระวังเป็นหวัด ถ้าไปไหนก็มีร่มมีอะไรต่างๆมากันละอองฝนด้วย และวิธีการก็คือ ถ้าเมื่อไหร่ตากฝนเหมือนผม คนไทยจะกลับไปสระผมทันที จะได้ไม่เป็นหวัด ผมค่อนข้างเซนซิทีฟเรื่องอากาศ ตื่นเช้ามาจะฟึดฟัดทุกที”

หลังจากนั้น นายกฯถามคณะคนไทยว่า “มีอะไรอีกไหม” โดยหญิงคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า ดีใจที่ท่านได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวตอบว่า “เหรอ ไม่ถามผมบ้างว่าดีใจไหม ก็ดีใจที่ได้ทำเพื่อประเทศไทย ด้วยกลไกต่างๆ ที่มันมาอย่างที่เขาต้องการ ไม่ได้มีวิธีการอย่างอื่นที่มันไม่ถูกต้อง โอเคนะครับ ขอบคุณนะจ๊ะ เดี๋ยวคงได้คุยทักทายกัน สวัสดีนะจ๊ะ” จากนั้น นายกฯเดินทักทายคณะคนไทย และเปิดโอกาสให้ทุกคนถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน