ภาพเศรษฐกิจโลกโตชะลอกดดันราคาสินทรัพย์เสี่ยง ระยะสั้นยังเป็นการพักฐาน

ภายหลังทรัมป์ประกาศพักรบกับจีนในการประชุม G20 ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (ระงับแผนขึ้นภาษีสินค้าจีนมูลค่า 3.5 แสนล้านเหรียญฯ) ล่าสุดได้เดินหน้าเพิ่มแรงกดดันทางการค้ากับยุโรปโดยขู่จัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปเพิ่มเติมมูลค่า 4 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งจะครอบคลุมสินค้าถึง 89 ชนิด อาทิ เนื้อ ชีส พาสต้า ผลไม้ กาแฟ และวิสกี้

โมเมนตัมเศรษฐกิจโลกยังเป็นลบ หลังตัวเลข PMI ชะลอตัวต่อเนื่อง แม้ทรัมป์จะสงบศึกการค้ากับจีนชั่วคราวแต่ไม่ได้ทำให้ภาพความเสี่ยงเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหมดไปเนื่องจากเรายังไม่เห็นสัญญาณที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งสะท้อนผ่านภาพการชะลอตัวของดัชนีภาคการผลิตโลก หรือ PMI ทั้งใน สหรัฐฯ ยุโรป รวมถึง ภูมิภาคเอเชีย (PMI สหรัฐฯ เดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 51.7 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.59 และ PMI ยุโรป เดือน มิ.ย.ที่ลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ที่ระดับ 47.6) ซึ่งส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ หุ้น, น้ำมัน ลดช่วงบวกลง

การขึ้นต่อจะมีเริ่มผันผวนมากขึ้นจาก valuation ที่เริ่มตึงตัว โดยล่าสุด SET Index ได้ปรับขึ้นไปซื้อขาย ณ ระดับ Forward PE ที่ 16.4x หรือสูงกว่า +1SD บนค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งด้วยภาพของสงครามการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ประกอบกับ ตัวเลขเศรษฐกิจโลกรวมถึงไทยที่ยังอยู่ในเชิงลบ (หน่วยงานเอกชนและหน่วยงานอิสระยังคงปรับประมาณตัวเลขเศรษฐกิจไทยลงต่อเนื่อง) อาจทำให้การขึ้นต่อเริ่มเปราะบางและเสี่ยงต่อการพักฐานเพิ่มมากขึ้น

ภาพระยะสั้นยังเป็นการปรับฐาน เก็งกำไรเน้นหุ้นในกลุ่มที่ยังปรับขึ้นน้อย หรือมี Valuation ไม่แพง ในกลุ่มพลังงาน อาหาร หรือสาธารณูปโภคที่ยังขึ้นน้อยกว่ากลุ่ม ขณะที่สามารถเลือกเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก จากบรรยากาศการเก็งกำไรเชิงบวกช่วงก.ค. ก่อนประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/62 หุ้นที่น่าสนใจได้แก่ PTT, TOP, PTTGC, SPRC, IRPC, BANPU, BPP, WHAUP, CPF, GFPT, CPN, NNCL เป็นต้น รวมถึง หุ้นกลุ่ม Domestic Play อาทิ ธนาคาร ค้าปลีก ท่องเที่ยว รับเหมาฯ ที่มีโอกาสได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล หลังนายกฯระบุว่ารายชื่อ ครม.เรียบร้อยแล้ว คาดเปิดทางไปสู่การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง

ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพระยะสั้นยังเป็นการพักฐาน ระวังแรงทำกำไรในหุ้นปลอดภัยและที่ขึ้นมาก การเก็งกำไรเน้นในกลุ่มที่ยังปรับตัวขึ้นน้อย หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // หุ้นแนะนำวันนี้ VRANDA*, STEC เก็งกำไร NNCL* (เป้า 1.90 ตัดขาดทุน 1.74), THRE* (เป้า 1.00 ตัดขาดทุน 0.77)

แนวรับ 1730-1720 / แนวต้าน : 1750-1766 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

SCB – คาดมีการจ่ายปันผลพิเศษเพิ่มจากปันผลปกติที่ 5.75 บาท/หุ้น แต่กำไรจาการขาย SCBLIFE ยังประเมินลำบาก เนื่องจากธนาคารไม่ได้เปิดเผยต้นทุนหุ้นที่มีอยู่ ขณะเดียวกัน โครงสร้างของดีลที่อาจมีการจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมรายปีในการช่วยขายผลิตภัณฑ์ ทำให้บางส่วนอาจเป็นการทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต และอาจแสดงกำไรพิเศษในปี 2562 ไม่สูงถึง 10-12 บาทอย่างที่ตลาดประเมิน โดยคาดจะมีความชัดเจนหลังประชุมนักวิเคาะห์ 4 ก.ค.62

BEM – ประชุมสภาผู้แทนวันนี้ ติดตามญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาฯ ตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการต่อสัญญาสัมปทานให้กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อาจกระทบต่อจิตวิทยาการเก็งกำไรหุ้นได้

ประเด็นติดตาม: 3 ก.ค. – ตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ / 5 ก.ค. – ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)