'รมช.คมนาคม' แจงโครงการซื้อเครื่องบินใหม่ 38 ลำอยู่ระหว่างพิจารณา

'รมช.คมนาคม' แจงโครงการซื้อเครื่องบินใหม่ 38 ลำอยู่ระหว่างพิจารณา

“รมช.คมนาคม” แจงโครงการซื้อเครื่องบินใหม่ 38 ลำอยู่ระหว่างพิจารณา ยันซื้อใหม่คุ้มค่า-เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.62 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถามสด เรื่อง การจัดซื้อเครื่องบิน ของ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 38 ลำ มูลค่า 1.56 แสนล้านบาท ถามโดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ทั้งนี้อภิปรายซักถามตอนหนึ่งถึงการเดินหน้าโครงการดังกล่าว รวมถึงผลการศึกษารายละเอียด ว่าด้วยการเปิดเส้นทางใหม่ที่ควรศึกษาให้เกิดความคุ้มทุน อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่สำรวจ เครื่องบินที่การบินไทยจัดซื้อก่อนหน้านั้น เป็นเครื่องบินรุ่นแอร์บัส ที่ปลดระวางและจอดไว้ที่สนามบินอู่ตะเภา พบว่ายังมีอายุการใช้งานได้ ประมาณ 14 ปี หากนำมาซ่อมบำรุง โดยไม่เปลืองงบประมาณเพื่อจัดซื้อฝูงบินใหม่ เบื้องต้นทราบว่าบริษัทการบินไทย เตรียมปลดระวางเครื่องบินฝูงดังกล่าว ผ่านการขาย ราคาลำละ 500 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านั้นจัดซื้อลำละ 8,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ชี้แจงและตอบกระทู้ ชี้แจงว่าการพจัดซื้อเครื่องบินใหม่ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา และยังไม่อนุมัติ ทั้งนี้เครื่องบินจำนวน 38 ลำที่จะซื้อนั้น เป็นการซื้อเพื่อทดแทนเครื่องบิน จำนวน 31 ลำ และอีก 7 ลำเป็นส่วนที่เติมใหม่ เหตุผลที่ต้องจัดซื้อนั้นเพื่อปรับสภาพการใช้งานให้เหมาะสมกับธุรกิจการบิน เนื่องจากเครื่องบินแอร์บัส เอ340 ที่จัดซื้อก่อนหน้านั้นมีสภาพเครื่องใหญ่ มีสี่เครื่องยนต์ ใช้ต้นทุนสูง และมีชั่วบินนาน 14 - 17 ชั่วโมง ในเส้นทางเอเชีย ไป สหรัฐอเมริกา ซึ่งพบว่าไอเคโอ เคยติดธงแดงของสายการบินในไทย ทำให้ไม่สามารถบินในเส้นทางดังกล่าวได้ สำหรับเครื่องบินที่เตรียมปลดระวางนั้น จะใช้การขาย เพื่อลดค่าใช้จ่ายทางบัญชี อย่างไรก็ตามการจัดซื้อเครื่องบินฝูงใหม่นั้นจะพิจารณาใช้เครื่องบินที่ลำแคบ สองเครื่องยนต์ และเหมาะสมกับธุรกิจ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการพิจารณาถึงความคุ้มค่า นั้นบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มีผู้ถือหุ้นที่กำกับ ดังนั้นการลงทุนใดๆ ในธุรกิจต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์.