ศาลยกคำร้อง 'ซีพี' -ส่อชวดประมูลอู่ตะเภา

ศาลยกคำร้อง 'ซีพี' -ส่อชวดประมูลอู่ตะเภา

เครือซีพีและพันธมิตร ส่อชวดร่วมประมูลพัฒนาอู่ตะเภา หลังศาลปกครองยกคำขอทุเลา ชี้คำสั่งคณะกรรมการ คัดเลือกฯตัดสิทธิ์ยังฟังไม่ได้ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.62 ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งยกคำขอทุเลา การบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ในคดีที่ บริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด (ซึ่งเป็นการลงทุนส่วนตัวของนายธนินท์ เจียรวนนท์ และเครือญาติเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยมีนายธนินท์ เป็นกรรมการบริษัท) บริษัทบี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) และบริษัทโอเรียนท์ซัคเซส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 1- 5 ฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
กรณีมีมติไม่รับข้อเสนอในส่วนของซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 เนื่องจากเป็นเอกสารที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นข้อเสนอ จึงเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯที่ไม่รับซองข้อเสนอดังกล่าว พร้อมทั้งมีคำขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา ให้ศาลมีคำสั่งให้คณะกรรมการคัดเลือกฯรับซองข้อเสนอของ 5 บริษัทไว้พิจารณาตามขั้นตอนการคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนต่อไป

ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอ ระบุว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำขอของ 5 บริษัท เป็นคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ซึ่งศาลจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการทุเลาการบังคับได้เมื่อมีองค์ประกอบครบทั้ง 3 ประการ คือ 1. กฎหรือคำสั่งทางปกครองที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนั้นน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย

2. การให้กฎหรือคำสั่งทางปกครองดังกล่าวมีผลใช้บังคับต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง
3.การทุเลาการบังคับตามกฎหรือคำสั่งทางปกครองนั้นไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่การบริการสาธารณะ ตามมาตรา 66 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ประกอบข้อ 72 วรรคสาม ของระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการ ในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543

โดยมีปัญหาที่ต้องพิจารณาในประการแรกว่า มติของคณะกรรมการคัดเลือกฯที่ไม่รับซองข้อเสนอบางส่วนของ 5บริษัท ไว้พิจารณา น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยที่เอกสารการคัดเลือกเอกชน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ข้อ 31(1) กำหนดว่า กองทัพเรือจะเปิดให้มีการรับซองข้อเสนอในวันที่ 21 มี.ค.62 เวลา 09.00น และปิดการรับซองในวันเดียวกัน เวลา 15.00น และ (3) กำหนดว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯจะไม่รับซองเอกสารข้อเสนอที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นซองเอกสารข้อเสนอตามที่ระบุในข้อ 31 (1) ข้อเท็จจริงปรากฏว่า 5 บริษัทกับผู้ยื่นข้อเสนออีกสองราย ได้ไปยังสถานที่รับซองข้อเสนอและลงทะเบียนก่อนเวลา 15.00น.

อย่างไรก็ตาม การลงทะเบียนดังกล่าวเป็นเพียงการแจ้งในเบื้องต้นว่า ได้ไปถึงสถานที่รับซองข้อเสนอและประสงค์ยื่นข้อเสนอเท่านั้น โดยการรับข้อเสนอจะครบถ้วนตามขั้นตอนก็เมื่อผู้ยื่นข้อเสนอได้ส่งมอบซองข้อเสนอและกล่องเอกสารให้แก่เจ้าหน้าที่ของ คณะกรรมการคัดเลือก ฯก่อนเวลา 15.00 น.

คณะกรรมการคัดเลือกฯชี้แจงในชั้นไต่สวนว่า 5 บริษัทยื่นส่งเอกสารกล่องที่ 6 กับกล่องที่ 9 เกินเวลาปิดรับซอง โดยแสดงพยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายบุคคลยกกล่องเอกสารดังกล่าวไปถึงจุดลงทะเบียนในเวลาประมาณ 15.09 น. และ 5 บริษัทยอมรับตามคำแถลงชี้แจงเพิ่มเติมว่า เอกสารข้อเสนอของทั้ง 5 บริษัท กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ไปถึงห้องรับรองชาวต่างประเทศ กองบัญชาการกองทัพเรือ ในเวลา 15.08 น. เหตุที่ล่าช้าเนื่องจากในวันดังกล่าวการจราจรติดขัดมาก

ข้อเท็จจริงในชั้นนี้เป็นอันรับฟังได้ว่า เอกสารข้อเสนอ กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ของ 5 บริษัทไปถึงสถานที่รับซองข้อเสนอภายหลังกำหนดเวลาปิดรับซองข้อเสนอ ซึ่งข้อ 31(3) ของเอกสารการคัดเลือกเอกชน กำหนดห้ามคณะกรรมการคัดเลือกฯรับซองเอกสารข้อเสนอที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาดังกล่าว ดังนั้นการที่คณะกรรมการคัดเลือกฯมีมติไม่รับซองข้อเสนอดังกล่าว จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนที่ 5 บริษัทอ้างว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯไม่ได้ถือเอากำหนดเวลายื่นและรับซองข้อเสนอเป็นสาระสำคัญและได้ขยายระยะเวลาการรับซองข้อเสนอโดยปริยายนั้น ประเด็นดังกล่าวเป็นข้อโต้แย้งที่ศาลจะต้องพิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเพื่อวินิจฉัยในเนื้อหาคดีต่อไป

เมื่อในชั้นนี้ยังรับฟังไม่ได้ว่าคำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว กรณีก็ไม่จำต้องพิจารณาเงื่อนไขแห่งการมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาประการอื่นอีกต่อไป เนื่องจากถึงอย่างไรก็ไม่ครบองค์ประกอบแห่งเงื่อนไขทั้ง 3 ประการที่ศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้ทุเลาการมีผลของคำสั่งไม่รับซองข้อเสนอบางส่วนของ คณะกรรมการคัดเลือกฯตามหนังสือสำนักงานบริหารเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ ด่วนมาก ที่ กพอ.ทร.182/2562ลงวันที่ 10 เมษายน 2562 ตามคำขอของ 5 บริษัท จึงมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของ 5บริษัทดังกล่าว