ทั่วโลกปรับวิธีลงโทษฉุดยอดประหารชีวิตปี 61 ลดฮวบ

ทั่วโลกปรับวิธีลงโทษฉุดยอดประหารชีวิตปี 61 ลดฮวบ

แอมเนสตี้เผยการประหารชีวิตปี 2561 ลดลงเกือบ 1 ใน 3 ทั่วโลก สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีเป็นอย่างน้อย แต่หลายประเทศตัวเลขยังเพิ่มขึ้น

รายงานประจำปีของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล เผยแพร่วานนี้ (10 เม.ย.) ระบุว่า การประหารชีวิตในปี 2561 ทั่วโลกลดลงเกือบ 1 ใน 3

หลังจากอิหร่านเปลีี่ยนแปลงกฎหมายต่อต้านยาเสพติด การประหารชีวิตก็ลดลงมากถึง 50% ในอิรัก ปากีสถาน และโซมาเลียก็ลดลงเช่นกัน แต่ในเบลารุส ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ซูดานใต้ และสหรัฐกลับใช้โทษประหารมากขึ้น ขณะที่ไทยกลับมาประหารชีวิตเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี และศรีลังกาก็จะเอาอย่างด้วย

นายคูมิ ไนดู เลขาธิการแอมเนสตี้กล่าวว่า ตัวเลขทั่วโลกลดลงอย่างมาก พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้แต่ประเทศที่ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดก็เริ่มเปลี่ยนแปลงวิธีการลงโทษ และตระหนักว่าโทษประหารชีวิตไม่ใช่คำตอบ

กล่าวโดยรวม ยอดการประหารชีวิตทั่วโลกลดลงจากอย่างน้อย 993 คนในปี 2560 มาเป็นอย่างน้อย 690 คนในปี 2561 ข้อมูลของแอมเนสตี้ไม่รวมจีน ประเทศที่ประหารชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่ไม่เปิดเผยข้อมูลด้วยถือเป็นความลับของทางราชการ

ประเทศอื่นๆ ที่มีการประหารชีวิตมากในปี 2561 ได้แก่ อิหร่าน 253 คน ซาอุดีอาระเบีย 149 คน เวียดนาม อย่างน้อย 85 คน และอิรักอย่างน้อย 52 คน ปีที่แล้วทางการเวียดนามตัดสินใจเผยข้อมูลตัวเลขที่ไม่เคยให้มาก่อน

ส่วนญี่ปุ่น สิงคโปร์ และซูดานใต้ รายงานตัวเลขสูงสุดในรอบหลายปี กลายเป็นประเทศสวนกระแส ความท้าทายของทั้ง 3 ประเทศจึงอยู่ที่การดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อยกเลิกโทษประหาร

นอกจากนี้ แอมเนสตี้ยังกังวลที่หลายประเทศโทษประหารชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2561 โดยเฉพาะอิรักและอียิปต์ แต่รายงานยังพบด้วยว่า กระแสโลกเดินหน้าเข้าสู่การยกเลิกโทษประหาร บูร์กินาฟาโซใช้การลงโทษแบบใหม่ส่งผลยกเลิกการประหารชีวิตทันที ขณะที่แกมเบียและมาเลเซียต่างประกาศอย่างเป็นทางการระงับการประหารชีวิตไว้ชั่วคราวอีกทั้งศาลในรัฐวอชิงตันของสหรัฐยังประกาศว่าโทษนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

แอมเนสตี้ ย้ำถึงการลงมติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เมื่อเดือน ธ.ค.2561 โดย 121 ประเทศสนับสนุนให้ทั่วโลกระงับโทษประหารชีวิตไว้ก่อน มีเพียง 35 ประเทศเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย

“แม้กระแสดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่ก็มั่นคง ทั่วโลกเห็นพ้องกันเดินหน้ายุติโทษประหารชีวิต” นายไนดูกล่าว