สหรัฐเรียกร้องประชาคมโลกเลือกข้างกรณีเวเนซุเอลา

วันนี้ รัฐบาลสหรัฐ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทั่วโลกตัดสินใจเลือกข้างว่าจะอยู่ข้างเดียวกับสหรัฐที่สนับสนุนผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลาหรือไม่ หรืออยู่ฝ่ายตรงข้ามที่ให้การสนับสนุนประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร 

ด้านสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์ในเวลาไม่นานนักว่า ให้การสนับสนุนนายฮวน กุยโด ผู้นำฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา เช่นเดียวกับสหรัฐ

รัสเซีย จีน ตุรกี และซีเรีย รุมวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐที่ประกาศสนับสนุนนายกุยโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา ให้ขึ้นเป็นประธานาธิบดี โดยประเทศเหล่านี้แสดงจุดยืนชัดเจนในการสนับสนุนประธานาธิบดีมาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา เช่นเดียวกันกับเม็กซิโก โบลิเวีย และคิวบา

ขณะที่หลายประเทศ อย่างบราซิล โคลอมเบีย ชิลี เปรู เอกวาดอร์ อาร์เจนตินา ปารากวัย สเปน สหราชอาณาจักร คอสตาริกา และแคนาดา ให้การสนับสนุนนายกุยโดเหมือนกับสหรัฐ

วิกฤตทางการเมืองของเวเนซุเอลาครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในประเทศที่ต่อต้านประธานาธิบดีมาดูโร เพราะไม่พอใจที่เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำมาหลายปี ซึ่งภาวะเงินเฟ้อ การตัดกระแสไฟฟ้า และภาวะขาดแคลนปัจจัยพื้นฐาน เป็นสาเหตุให้ชาวเวเนซุเอลาหลายล้านคนต้องหลบหนีออกจากประเทศ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงหลายวันที่ผ่านมานี้เพิ่มขึ้นเป็น 26 รายแล้ว

ขณะนี้เศรษฐกิจของเวเนซุเอลาทรุดตัวอย่างหนัก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งแตะ 1 ล้านเปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันที่ขายในประเทศแทบจะไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ปัจจุบัน น้ำมัน 1 ลิตร ราคา 1 โบลิวาร์ (0.00013 บาท) ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดมืดอยู่ที่ 4 ล้านโบลิวาร์ ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แปลว่า เงินเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 33 บาท) คนในเวเนซุเอลาสามารถเติมน้ำมันเต็มถังรถยนต์ขนาดกลางได้ถึง 720 ครั้ง ดังนั้นการลักลอบนำน้ำมันไปขายในประเทศเพื่อนบ้านที่ราคาน้ำมันสูงกว่าจึงเป็นธุรกิจใหญ่ ตัวเลขจากรัฐบาลเวเนซุเอลาบ่งชี้ว่ารัฐต้องสูญรายรับในส่วนนี้ให้กับพวกลักลอบไปถึงปีละ 18,000 ล้านดอลลาร์