รับเป็นคดีพิเศษ 'กลุ่มทุนยักษ์เกษตร' รุกป่าชายเลน-ทับที่ชาวบ้าน447ไร่

รับเป็นคดีพิเศษ 'กลุ่มทุนยักษ์เกษตร' รุกป่าชายเลน-ทับที่ชาวบ้าน447ไร่

"ชัยพฤกษ์" เผย "ดีเอสไอ" รับคดี "กลุ่มทุนยักษ์เกษตร" รุกที่ดินป่าชายเลนและออก น.ส.3 ก. ทับที่ทำกินและบ้านเรือนของชาวบ้าน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง เนื้อที่รวมกว่า 447 ไร่เป็นคดีพิเศษแล้ว เตรียมเสนออธิบดีกรมที่ดินเพิกถอน น.ส.3 ก. และจำหน่ายออกจากสารบบที่ดิน

วันที่ 12 กันยายน 2561 ตามที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ลงตรวจสอบพื้นที่บ่อกุ้ง บ้านสุไหงปาตู หมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 3 บ้านมดตะนอย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง กรณีที่มีการอ้างว่าบริษัทธุรกิจฟาร์มกุ้ง ในเครือทุนการเกษตรรายใหญ่ของประเทศ ออกเอกสาร น.ส.3 ก.รุกป่าชายเลน และในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง รวมทั้งทับที่ทำกินของชาวบ้าน รวมกว่า 447 ไร่ โดยออกจาก ส.ค.1 เพียง 12 ฉบับ ชาวบ้านเคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปตั้งแต่ปี 2557 จนกระทั่งได้ร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จนส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและสอบปากคำชาวบ้านในพื้นที่จำนวน 27 ครัวเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อน

โดยเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก.ดังกล่าวไปทับบ้านเรือน ถนนลาดยางกลางหมู่บ้าน สวนยางพารา และปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและเป็นที่ดินทำกินของชาวบ้านใน 2 หมู่บ้านดังกล่าว และนายทุนยังได้บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนอีกนับร้อยไร่ ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำของชุมชน โดยชาวบ้านได้อาศัยความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนในการทำประมงพื้นบ้านจับสัตว์น้ำมายาวนาน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบความปิดปกติหลายอย่างในการออก น.ส.3 ก.โดยเฉพาะที่ดินที่ได้ครอบครองกว่า 447 ไร่ พบว่าเนื้อที่เกินไปจาก ส.ค.1 เดิมจำนวนหลายร้อยไร่ และก็ยังออกทับที่ทำกินของชาวบ้านด้วย

ล่าสุด นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กล่าวว่า กรณีที่ดินที่สุไหงปาตู ต.เกาะลิบง หลังจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงพื้นที่มาตรวจสอบและสอบสวนชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ขณะเดียวกันทางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบงได้สรุปข้อมูลผลการแปรภาพถ่ายทางอากาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งออกมาแล้ว ผลปรากฏชัดว่าพื้นที่ประมาณ 30% เป็นพื้นที่ป่าชายเลน ส่วนที่เหลือก็เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ปลูกพืชเกษตรและเป็นที่อยู่อาศัย

ดังนั้น ขณะนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว และได้ดำเนินการเสนอกรมที่ดินให้เพิกถอน น.ส.3 ก.และจำหน่ายออกจากสารบบที่ดิน ต่อไปก็คงจะสู่กระบวนการของกรมที่ดินที่จะดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์และจำหน่าย ส.ค.1 ออกจากสารบบที่ดินต่อไป คาดว่าจะต้องใช้เวลาไม่นาน