'พาที สารสิน' ปัดข่าวเป็นนอมินี 'นกสกู๊ต' หลังถูกสั่งสอบ

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. เผยว่า กพท.อยู่ระหว่างจับตาดูสถานะทางการเงินของสายการบินนกแอร์ ภายหลังพบว่า มีส่วนทุนเริ่มลดลง ปัญหาทุนหมุนเวียนพร่องไป โดยสาเหตุที่ กพท.ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะกังวลว่าหากสถานะทางการเงินไม่คล่องตัว ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ อาจกระทบต่อผู้โดยสาร หากพบคนไทยเป็นนอมินีถือหุ้นแทนต่างชาติในสายการบินที่จดทะเบียนในไทย อาจเข้าข่ายมีความผิดตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าขายในการออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศ(AOL)ฉบับใหม่ ที่กำหนดให้สายการบินที่จดทะเบียนในไทย ต้องมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นชาวไทยอย่างน้อย 51% และต่างชาติไม่เกิน 49%

ขณะที่ นายพาที สารสิน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ สายการบินนกแอร์ ออกมาปฏิเสธข่าวกรณีที่มีกระแสว่า นายพาที เป็นผู้ถือหุ้นแทน หรือ นอมินี (nominee) ในการจัดตั้งสายการบินนกสกู๊ตว่า ไม่เป็นความจริง ไม่เคยเป็น นอมินี ใครทั้งสิ้น พร้อมยืนยันว่าลาออกจากนกแอร์แล้วกว่า 1 ปี ไม่ได้มีส่วนร่วมหรือข้องเกี่ยวใดๆ ส่วนหุ้นที่มีอยู่เป็นการถือหุ้นในนามส่วนตัว ไม่ได้เป็นตัวแทน ซึ่งขั้นตอนต่อไปทางนกแอร์ก็ต้องมาซื้อหุ้นในส่วนของจน เมื่อถึงตอนนั้นตนก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนกแอร์อย่างเป็นทางการในทุกด้าน

โดย นายพาที ได้ทวีตข้อความยืนยันผ่านทวิตเตอร์ Patee Sarasin ว่า “ข่าวนกแอร์ทำให้สับสนมากที่เอาเราเข้าไปเกี่ยวพันนะครับผมได้ออกมาจากนกแอร์ และในการตัดสินใจอะไรทั้งสิ้นในการบริหาร ไม่เคยได้บอกว่าเป็น nominee เพียงแต่บอกว่าไม่ได้บริหารมานานแล้ว อย่าเอาชื่อเราไปยุ่งเกี่ยวด้วยเท่านั้นเอง สั้นๆ คือไม่ได้เป็น Nominee และก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารใดๆทั้งสิ้น รับทราบทั่วกันนะครับ”