สพธอ.เล็งอีก3ปีใช้พ.ร.บ.คอมพ์ใหม่

สพธอ.เล็งอีก3ปีใช้พ.ร.บ.คอมพ์ใหม่

‘สพธอ.’ เผยเตรียมแก้ไขจริงร่างพ.ร.บ.คอมพ์เวอร์ชั่นอัพเกรด ก่อนทำประชาพิจารณ์ครั้งสุดท้ายภายใน 3 เดือน

นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. เผยความคืบหน้าการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปี 2550 ว่า ขณะนี้การรับฟังความคิดเห็นแบบกลุ่ม หรือโฟกัสกรุ๊ปที่เกี่ยวข้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ขั้นตอนต่อไปคือลงมือแก้ไขจริงโดยคณะกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาคประชาชน ภาครัฐ ผู้ประกอบการ และผู้ได้รับผลกระทบรวมกว่า 10 คน โดยภายใน 3 เดือนจากนี้เชื่อว่าจะทำประชาพิจารณ์ครั้งสุดท้ายได้ ฉบับสมบูรณ์จะเสร็จภายใน 6 เดือน

ประเด็นหลักที่ให้ความสำคัญคือ เรื่องคำจำกัดความต่างๆ ที่ต้องทำให้ชัดเจน การแฮคข้อมูล การปิดเว็บไซต์ และโดยเฉพาะมาตราที่ 14(1) ว่าด้วยเรื่องการป้อนข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งเจตนารมณ์เดิมมีเป้าหมายช่วยสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่เมื่อนำไปใช้จริงกลับถูกบิดเบือนไปใช้กับการหมิ่นประมาท

“ธงหลักๆ ที่วางไว้คือทำให้เกิดความสมดุลระหว่างเรื่องเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย”

อย่างไรก็ดี ขั้นตอนส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบความถูกต้องน่าจะทำได้ทันภายในสิ้นปี 2556 แต่กว่าจะนำเข้าสภาเพื่อพิจารณาอนุมัติได้คงเป็นปลายปี 2557 และพร้อมนำไปบังคับใช้จริงอีก 3 ปีข้างหน้า

เธอกล่าวต่อว่า ประโยชน์ที่หวังว่าจะได้รับจากการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวคือ เกิดความชัดเจน ประชาชนเข้าใจและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ด้านเจ้าหน้าที่จะไม่สับสน อีกทางหนึ่งเชิงเศรษฐกิจเรื่องความปลอดภัยต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจังเนื่องจากทุกวันนี้ภัยคุกคามมีอยู่จำนวนมากและมาจากทุกช่องทาง

“การใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค ทำเว็บไซต์ และบล็อคต่างๆ ได้กลายเป็นช่องทางรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล ทุกวันนี้เลขบัตรประชาชน 13 หลักกำลังกลายเป็นข้อมูลสาธารณะไปแล้ว หากการแก้ไขพ.ร.บ.คอมพ์ล่าช้าออกไปอีกย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศในภาพรวม ทั้งเกิดความเสี่ยงสูงต่อภัยคุกคามที่หวังเข้ามาโจมตี”

พร้อมระบุด้วยว่า นอกจากกฎหมายดังกล่าว ที่สำคัญยังมีพ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงร่างพ.ร.บคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่รอคณะรัฐมนตรีพิจารณา