พะเยาเดินหน้าฉีด "ไฟเซอร์สูตรเด็ก" อายุ 5-11ปี เริ่มเข็มแรกวันนี้

พะเยาเดินหน้าฉีด "ไฟเซอร์สูตรเด็ก" อายุ 5-11ปี เริ่มเข็มแรกวันนี้

เด็กเชียงคำมั่นใจ เปิดแขนรอเข็ม เดินหน้าฉีด "ไฟเซอร์สูตรเด็ก" อายุ 5-11ปี เริ่มสตาร์ทเข็มแรกวันนี้ 550 ราย ผปค.มั่นใจปลอดภัยหายห่วง

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565  โรงพยาบาลเชียงคำ ได้ดำเนินการนำร่อง ฉีดวัคซีนยี่ห้อ “ไฟเซอร์สูตรเด็ก” ในเด็กอายุ 5-11 ปี เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักตื่นเต้นของทั้งผู้ปกครอง เด็กและคุณครูผู้ควบคุมนักเรียน โดยเฉพาะผู้ปกครองดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ

 

พะเยาเดินหน้าฉีด \"ไฟเซอร์สูตรเด็ก\" อายุ 5-11ปี เริ่มเข็มแรกวันนี้

นายแพทย์ปรัศนีย์ อารีรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายปฐมภูมิ โรงพยาบาลเชียงคำ กล่าวว่า ยอดจำนวนเด็กที่มีอายุ 5-11 ปีที่ยังไม่ได้รับการฉีดจำนวน กว่า 5,000 ราย และได้ให้ทางโรงเรียนต่างๆในพื้นที่ทำการสำรวจพร้อมให้จัดส่งเอกสารการยินยอมของผู้ปกครองที่ประสงค์จะให้บุตรหลานฉีดวัคซีน มีนักเรียนที่ประสงค์จะรับวัคซีนทั้งหมด 3,200 ราย ส่วนที่เหลือจะรอดูผลของนักเรียนรอบแรกและจะตัดสินใจว่าจะให้บุตรหลานได้รับวัคซีนดังกล่าวหรือไม่อีกครั้ง

สำหรับผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นกับเด็กๆ โดยปกติอาการที่พบหลังฉีดไฟเซอร์สูตรเด็ก ได้แก่ ปวด บวม แดง เฉพาะที่ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เป็นไข้ ทำให้จำเป็นต้องสังเกตอาการหลังฉีดอย่างน้อย 30 นาที ในสถานที่ฉีดวัคซีนด้วยเสมอและอาการดังกล่าวสามารถหายได้เองเมื่อรับประทานยาลดไข้และพักผ่อนอย่างเพียงพอ

 

พะเยาเดินหน้าฉีด \"ไฟเซอร์สูตรเด็ก\" อายุ 5-11ปี เริ่มเข็มแรกวันนี้

ทั้งนี้ หลังจากฉีดวัคซีน 1 สัปดาห์ ผู้ปกครองควรดูแลไม่ให้บุตรหลานออกกำลังกาย ปีนป่าย ว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงมาก สำหรับในวันนี้มีจำนวนนักเรียนที่เข้ามารับวัคซีน จำนวน 550 รายและทางโรงพยาบาลจะเริ่มทยอยฉีดทุกๆวันศุกร์จนกว่าจะครบตามจำนวนที่ได้ลงทะเบียนไว้

 

ด้านเด็กชายธฤต พึ่งศรี อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนปาณัทคุณา กล่าวว่า ตัวเองไม่กังวลเรื่องการฉีดวัคซีน แต่กลัวเข็มฉีดยาและกลัวเจ็บเท่านั้น เมื่อผู้ปกครองที่มานั่งเฝ้าดูบุตรหลานได้ยิน อดหัวเราะไม่ได้และได้ปลอบโยนเด็กว่าไม่เจ็บมากแค่เพียงมดกัดเท่านั้น

 

 

นางจันทร์ดี พึ่งศรี อายุ 57 ปี ย่าของ ด.ช.ธฤต กล่าวว่า ตนเองนั้นยังมีความกังวลเล็กๆเรื่องความปลอดภัยหลังฉีดวัคซีน เพราะว่าตนเองเห็นข่าวในโทรทัศน์ว่ามีเด็กเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนดังกล่าว ตนเองนั้นชั่งใจอยู่นานถึงผลดีผลเสียจึงตัดสินใจให้หลานตนเองรับวัคซีน เพราะว่าการรับวัคซีนจะเป็นเกราะป้องกันโรคระบาดได้และเด็กต้องมีการเดินทางตลอดซึ่งเสี่ยงต่อโรคติดต่อ อย่างน้อยอาการหนักจะได้กลายเป็นเบา