งาน “Gems & Jewely Fest in Phuket” ปลุกธุรกิจการค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย

ช่วงปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากสินค้าดังกล่าวเป็นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย  เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกลดลดลง โดยในปี 63 ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกหดตัวลงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย  ทำให้ภาพรวมการส่งออกส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย ปี 63 ติดลบถึง 40.08 %3 มูลค่า 150,189.50 ล้านบาท

ภายหลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย มีการเปิดประเทศ หลายประเทศที่เป็นตลาดสำคัญของไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความต้องการสินค้ากลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น   ทำให้การส่งอัญมณีของประเทศไทย 10 เดือนเติบโตเป็นบวกถึง 27.95% ทำรายได้เข้าประเทศกว่า 150,000 ล้านบาท จากที่ตั้งเป้าทั้งปีว่าเป็นบวกไม่น้อยกว่า 5% คาดว่าจะโตกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 5 เท่า เป็น 25%

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT  มองว่า  แนวโน้มการส่งออกส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยจะดีขึ้นต่อเนื่องความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจในหลายประเทศฟื้นตัว และเข้าสู่ช่วงเทศกาล ทั้งคริสต์มาสและปีใหม่ ทำให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เร่งนำเข้าเพื่อไปจำหน่าย ให้คนซื้อเป็นของฝาก ของขวัญ 

 

สำหรับกิจกรรมที่ผลักดันการส่งออกพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับของไทยนั้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือบางกอกเจมส์แอดน์จิวเวอรี่ แฟร์  Bangkok Gems & Jewelry Fair  เป็นประจำทุกปี ซึ่งถือเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญที่สุดของโลก และจัดต่อเนื่องมามาถึง 65 ครั้งแต่จากสถานการณ์โควิด -19 ทำให้งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบสู่ออนไลน์ในลักษณะงานแสดงสินค้าเสมือนจริงตั้งแต่ปี 2563-2564

ทั้งนี้ เพื่อเร่งรัดผลักดันการส่งออกรองรับเศรษฐกิจโลกที่หดตัวจากปัญหาต่างๆ รวมถึงผลกระทบจากวิกฤติโควิดที่เกิดขึ้น  กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดโครงการส่งเสริมการตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเพื่อสนับสนุนแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หรือ “Gems & Jewely Fest in Phuket” ระหว่างวันที่ 8-12 ธ.ค. 2564 ขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องภายใต้แผนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทย

งาน Phuket Gems & Jewelry Fest เป็นช่องทางและเวทีการค้าทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้ผู้ผลิตและส่งออกไทย ให้สามารถพบปะ สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจและเจรจาการค้ากับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าในประเทศเป้าหมายได้ในยุค New Normal สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทย ตลอดจนกระตุ้นมูลค่าการส่งออก โครงการนี้จะมีจำนวนผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมประมาณ 200 ราย และมีผู้นำเข้าต่างประเทศ นักท่องเที่ยว ตลอดจนประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมรวมกว่า 4,000 ราย  คาดสร้างมูลค่าซื้อขายกว่า 150 ล้านบาท 

นางเนาวรัตน์  สวิงคูณ  บริษัทเบสแอนด์บลูเจมส์  ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายพลอยและจิวเวลรี่ จ.จันทบุรี กล่าวว่า  โรงงานได้รับผลกระทบ เพราะเราเป็นโรงงานซึ่งเป็นต้นน้ำ อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งผู้ประกอบการต้องพยายามเซฟตัวเอง ทั้งต้นทุนทุกอย่าง ค่าจ้างช่างเจียระไน ด้านการค้าก็จำหน่ายสินค้าไม่ได้ ขณะที่ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศก็ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศได้ แต่เราก็ยังต้องรักษาการจ้างงานเอาไว้ด้วย

“ที่ผ่านมา มีการค้าขายอัญมณี มียอดขายต่อเดือนมูลค่าหลายล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รายได้ลดลง ประกอบกับไม่สามารถส่งออกได้เพราะอัญมณีและเครื่องประดับไม่ เหมือนสินค้าชนิดอื่นที่สั่งทางออนไลน์ได้ เนื่องจากเป็นสินค้ามูลค่าสูงต้องจัดส่งด้วยความปลอดภัยขั้นสูง  โดยยอดขายลดลงประมาณ 50- 80% ส่วนอีก 20% ที่อยู่ได้มา จากคู่ค้าเก่าที่ยังอยู่ในประเทศ เดินทางมาซื้อเองและส่งออกเอง “นางเนาวรัตน์ กล่าว

นางเนาวรัตน์ กล่าวว่า  ในทุกๆปีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ก็จะจัดงานบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่ บริษัทก็ไปออกบูธแสดงสินค้าทุกปี แต่เมื่อโควิดระบาด ก็ต้องหยุดแม้ว่าจะจัดแบบออนไลน์เสมือนจริง หรือไฮบริด ก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง เพราะอัญมณีและเครื่องประดับลูกค้าจะต้องมาสัมผัส ดูสินค้าจริง  ครั้งนี้มีการจัดแสดงสินค้าที่ภูเก็ตก็ถือเป็นงานย่อยๆของบางกอกเจมส์ฯโดยมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศมาด้วยก็ได้มาเจรจาการค้าได้แบบตัวต่อตัว แม้ไม่ได้เต็มที่ก็ยังดีกว่าแบบออนไลน์ แต่ทำยอดขายดีขึ้นมาก แถมยังได้เจรจาการค้าอีก ซึ่งก็เข้าใจเนื่องจากปัญหาโควิด แต่ก็อยากให้มีการจัดงานในลักษณะแบบนี้อีก ซึ่งผู้ประกอบการมองว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ

ด้านนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า  สำหรับแนวโน้มการจัดงานงาน Bangkok Gems & Jewelry ( BGJF) ปี 2565 กรมมีแนวโน้มกำหนดจัดงานรูปแบบปกติในเดือนก.ย. 2565  ซึ่งเดิมกรมมีแผนจะจัด Bangkok Gems & Jewelry Virtual trade fair  แต่จากสถานการณ์โควิดยังคงมีการแพร่ระบาดเป็นระยะๆ  ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการเดินทางของผู้ซื้อผู้นำเข้า ตลอดจน exhibitor  ต่างประเทศ จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของประเทศต่างๆ  ดังนั้นจึงได้เลื่อนไปจัดงาน Bangkok Gems & Jewelry Virtual trade fair ในเดือนมิ.ย. 2565 เพื่อทดแทนงานเดือนก.พ .

อย่างไรก็ตามกรมมีแผนส่งเสริมและสนับสนุนธุกิจอัญมณีและเครื่องประดับในหลายกิจกรรม ได้แก่1. การจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด ในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ อาทิงานแสดงสินค้า online business matching และ virtual trade fair 2. ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอย่างใกล้ชิด อาทิ  การสนับสนุนสมาคมเครื่องเงินจัด obm เมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา 3. การส่งเสริมและขยายช่องทางการค้าด้วยการลงนาม mou กับเมืองรอง เมืองโคฟุ ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น4. การพัฒนาศักยภาพเชิงลึกด้านการตลาดให้กับผู้ประกอบการไทยในการบุกตลาดจีน ปี 2564 ในเมืองเซี่ยงไฮ้และจีนตอนใต้ – คุนหมิง

การจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบจริงที่จ.ภูเก็ต ถือเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดโควิด-19 ทำให้ธุรกิจการค้าด้านอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเริ่มขยับขับเคลื่อนได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสและช่องทางให้กับผู้ประกอบการ ผู้นำเข้า และผู้ซื้อ ได้มากกว่าเดิม