โค้งสุดท้าย “เลือกตั้ง อบต.” กกต.รับ 227 เรื่องร้องเรียน “ซื้อเสียง” มากสุด

โค้งสุดท้าย “เลือกตั้ง อบต.” กกต.รับ 227 เรื่องร้องเรียน “ซื้อเสียง” มากสุด

ประธาน “กกต.” เผย โค้งสุดท้ายก่อน “เลือกตั้ง อบต.” มี 227 เรื่องร้องเรียน พบปม “ซื้อเสียง-หาเสียงผิดกฎหมาย” มากสุด ขอประชาชนใช้ “สิทธิเลือกตั้ง” ไม่ให้ใครแทรกแซง อย่าหนุนการทุจริตทุกรูปแบบ

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2564 ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองนาแซง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ นายอิทธิพร  บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการอบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) อบต.หนองนาแซง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งนายก และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองนาแซง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ โดยมีนายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ร.อ.ไตรสรณ์ ผาสุข รองผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนงานราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

เบื้องต้น นายอิทธิพร ได้เน้นย้ำให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น มีสมาธิ และภาคภูมิใจในการทำงานของตน และขอให้ปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วง

หลังจากนั้น นายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า สำหรับเรื่องร้องเรียนที่ได้รับรายงานล่าสุด มีจำนวน 227 เรื่อง สูงสุดคือร้องเรียนเรื่องการซื้อเสียง 70 เรื่อง เรื่องการหาเสียงหลอกลวง 50 เรื่อง ที่เหลือก็เป็นเรื่องร้องเรียนทั่ว ๆ ไป ส่วนปัญหาอุปสรรคเรามีการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นมาแล้ว 2 ครั้ง ทั้งการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด และการเลือกตั้งเทศบาล ซึ่งเราก็ถอดบทเรียนพยายามดูว่าจุดไหนที่จะไม่ให้เกิดข้อบกพร่องอีก เราเตรียมการอย่างเต็มที่ และหวังว่าด้วยความพยายามของหลายๆฝ่ายการจัดการเลือกตั้งในครั้งนี้หวังว่าจะไม่เกิดปัญหาใด ๆ  ส่วนมาตรการป้องกันโควิด-19 ในหน่วยเลือกตั้ง มีการใช้ตั้งแต่การเลือกตั้งซ่อมปลายปี 2562 และดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ปรากฏเหตุการณ์แพร่ระบาด แต่ครั้งนี้เป็นไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งก่อนจะมีการเตรียมการมาตรการป้องกันโควิด-19 กกต.ได้หารือกระทรวงสาธารณสุข และพิจารณาแล้วเห็นว่าหากใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 ในหน่วยเลือกตั้งที่กกต.ทำอยู่ และความร่วมมือของประชาชน ความมีวินัยของผู้มาใช้สิทธิ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้ และในแต่ละหน่วยก็จะมีช่องทางพิเศษสำหรับผู้ที่มีอุณหถูมิร่างกายที่สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้ผู้มีอุณหภูมิสูงสามารถใช้สิทธิได้

“หน้าที่ปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เลือกตั้งโดยไม่ให้มีใครแทรกแซง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการทุจริตทุกรูปแบบ ถ้าปฏิบัติตามนี้การเลือกตั้งก็จะดีขึ้น แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามนี้ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะถูกจำกัดสิทธิทางการเมือง รวมทั้งถูกพิพากษาลงโทษคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีเลือกตั้งได้ ทั้งนี้ในส่วนของ กกตในการป้องปรามเราทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด มีผู้ตรวจการเลือกตั้ง มีชุดเคลื่อนเร็วของตำรวจ ซึ่งหวังว่าจะกระตุ้นเตือนคนที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายได้ละเว้นเสีย”นายอิทธิพร กล่าว

นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ตนจะไปเยี่ยมชมการส่งมอบอุปกรณ์เลือกตั้ง และบัตรเลือกตั้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ และในวันเลือกตั้งก็จะไปตรวจหน่วยเลือกตั้งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้