“สนั่น”ชี้ผู้นำยุคนิวนอร์มอล เชื่อมต่อคนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่

“หากเชื่อมคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ได้จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการส่งเสริมการทำธุรกิจในยุคนี้”

“สนั่น อังอุบลกุล” นักธุรกิจที่คว่ำหวอดในวงการค้าของประเทศไทย เป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาชนะใส่อาหารเมลามีน ซุปเปอร์แวร์ รายใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งนั่งเก้าอี้ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 25 ที่ชูนโยบาย Connect the Dots ฟื้นเศรษฐกิจไทยใน 99 วัน

“สนั่น” เล่าถึงในอดีตเมื่อครั้งเข้าทำงานใน บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ว่า บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี 2506 โดย “สุมิตร เลิศสุมิตรกุล” ที่เริ่มแรกเป็นอุตสาหกรรมภายในครอบครัวในชื่อ "ห้างหุ้นส่วนจำกัดอุตสาหกรรมศรีไทยพลาสติก” ซึ่งได้รับทาบทามเป็นผู้บริหารเมื่อ 48 ปีที่แล้ว เดิมผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น กาละมัง ถังน้ำ ของเล่นเด็ก

ต่อมาขยายการผลิตสินค้าพลาสติกเพื่องานอุตสาหกรรม โดยนำพลาสติกเมลามีนมาผลิตเป็นภาชนะเครื่องหมายการค้า “ซุปเปอร์แวร์” ตรานกเพนกวิน ทำให้ภาชนะเมลามีนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายและยอมรับในคุณภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกิจการขยายตัวจนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในปี 2534 และเปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทมหาชนในปี 2536 จนกระทั่งปี 2540 เกิด “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ซึ่งได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับบริษัทอื่นแต่บริหารงานจนรอดพ้นวิกฤติมาได้จนพลิกธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

 

“หลายยุคหลายสมัยเกิดเหตุการณ์หลายอย่างส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางทางเศรษฐกิจ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การปรับตัวให้เร็ว โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุคปัจจุบันที่เป็นยุคดิจิทัลมีความผันผวน มีซับซ้อนและคลุมเครือที่ไม่มีใครฟันธงได้ว่า สิ่งนึ้คือใช่หรือไม่ใช่ ดังนั้น การบริหารจัดการทุกอย่างต้องรวดเร็ว ยืดหยุ่นสูงมาก โดยคนในองค์กรต้องรู้เชิงลึกในแต่ละด้าน รวมทั้งต้องเชื่อมโยงให้ทำงานเป็นทีมได้ นี่คือแนวคิดการทำงานเพื่อให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจแต่ละยุคแต่ละสมัย"

ปัจจุบันเทคโนโลยีถือว่ามีความสำคัญมากในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล หากใครไม่นำเทคโนโลยีมาบริหารงานธุรกิจจะไปไม่รอด และต้องมองไปข้างหน้าหรือในอนาคตว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกจะมีการรักษาสิ่งแวดล้อมเข้ามามีส่วนในกระบวนการผลิต ซึ่งบริษัทฯเริ่มนำไบโอพลาสติกเข้ามาการผลิตจะทำให้ธุรกิจศรีไทยซุปเปอร์แวร์เกาะติดกับคนยุคใหม่ที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมและเป็นความยั่งยืนในอนาคต

สิ่งที่ “ซีอีโอ “ ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ มองว่าเป็นสิ่งที่ยากและมีความท้าทาย คือ การเชื่อมโยงคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ให้ทำงานในทิศทางเดียวกัน เพราะธุรกิจแบบเดิมเป็นธุรกิจแบบ “ธุรกิจครอบครัว” หรือ Family Business ที่การบริหารธุรกิจในครอบครัว ต่อมาธุรกิจเริ่มขยายมีคนรุ่นใหม่มามากขึ้น จะทำอย่างไรให้คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่เชื่อมต่อด้วยกันได้ ซึ่งคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวจะมีความรู้ด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ 

ขณะที่คนรุ่นเก่ามีประสบการณ์มายาวนานมีความรอบคอบและมีข้อได้เปรียบ คือ การมีเครือข่ายในวงธุรกิจ ซึ่งคนรุ่นใหม่ยังไม่มีและกว่าจะสร้างเครือข่ายได้ต้องใช้เวลา หากเชื่อมโยงคนรุ่นและรุ่นใหม่ได้จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการส่งเสริมการทำธุรกิจในยุคนี้และสร้างความได้เปรียบทางการค้าในโลกปัจจุบัน

 

 

สำหรับคุณสมบัติของความเป็นผู้นำที่ยึดถือและปฏิบัติในการบริหารธุรกิจ ประกอบด้วย 5 E Leadership คือ 

Empathy การเป็นบุคคลที่มีบุคลิกอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ 

Empower การเป็นความกล้าโดยต้องมีความเชื่อที่ว่าคนที่เก่งกว่าเราจะทำให้เราเก่งขึ้น

Engagement ที่จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนให้เกิดการการทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข

Encouragement การสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทำงานทุกคน 

Enable สิ่งใดที่เป็นอุปสรรคการทำงาน เราต้องเข้าไปช่วย เข้าไปชี้ทางออกขอปัญหาหรือการไปเป็นพี่เลี้ยงเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ ชี้ให้เห็นว่า ตรงนี้คือทางออก ที่สำคัญต้องการบริการเวลาให้เป็น ไม่ต้องไปเครียดกับงานเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดไม่ต้องไปเครียดกับงาน

ในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแต่อีกด้านหนึ่งในฐานะประธานหอการค้าไทยคนที่ 25 ถือว่าเป็นตำแหน่งสำคัญเพราะหอการค้าไทยเป็นองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ที่มีบทบาทเป็นตัวแทนภาคเอกชนในการประสานงานทางการค้าและเศรษฐกิจ ระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ และให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบาย แนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และชี้ทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นผู้นำองค์กรจึงมีความสำคัญในการนำพาองค์กรเดินหน้าสู่ความเข็มแข็ง โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบเศรษฐกิจ

“สนั่น” ได้สะท้อนแนวคิดการทำงานภายใต้ผู้นำ “หอการค้าไทย” ที่ก่อตั้งมา 88 ปีแล้ว โดยขับเคลื่อนการทำงาน 3 แนวทาง คือ 1.การค้าและการลงทุน 2.เกษตรและอาหาร 3.การท่องเที่ยวและการบริการ 

“ผมรับตำแหน่งเป็นประธานหอการค้าไทย คนที่ 25 ยังต้องการสานต่อเจตนารมณ์ของหอการค้าไทยต่อไป ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะถดถอย” 

สำหรับโจทย์ใหญ่ที่ต้องตีให้แตกคือ

1.ทำไม หรือ Why คือทำไมความเชื่อมั่นในการลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติจึงลดลง

2.อะไร หรือ What อะไรคือสิ่งที่เราต้องแก้ไข ต้องเปลี่ยนแปลง หรืออะไรคือสิ่งที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น

3.ทำอย่างไร หรือ How คือ ทำอย่างไรจะฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอย่างไร

การทำงานที่ผ่านมาหอการค้าไทยหารือรัฐบาลตลอด โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ซึ่งพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะของภาคเอกชน เพราะภาคเอกชนคือคนที่อยู่หน้างานย่อมรู้ดี โดยภาคเอกชนให้ข้อมูลและทางออกให้กับรัฐบาล

นอกจากนี้หอการค้าไทยยังทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งเอกชน โดยเฉพาะ 40 ซีอีโอของไทยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตามนโยบาย ‘Connect the Dots’ ภารกิจฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยภายใน 99 วัน เพื่อให้หอการค้าเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐ เอกชนและประชาชน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทย

 

“ประเทศไทยมีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งไทยเป็นประเทศที่โลเคชั่นดี และยังมีความได้เปรียบในเรื่อง Work any time คือ เดินทางไปไหนก็ทำงานได้หมด ส่วนการลงทุนเราต้องดึงคนต่างชาติและส่งเสริมคนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ”

สิ่งที่หอการค้าอยากเห็น คือ การทำเกษตรไทยเป็น “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” ซึ่งหอการค้าได้ร่วมมือกับจีนที่ประสบความสำเร็จเรื่องนี้ โดยคนหนุ่มสาวที่รู้ด้านเทคโนโลยีไปช่วยปรับเปลี่ยนงานเกษตรของรุ่นพ่อรุ่นแม่ พร้อมกับการสร้างแฟลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายสำคัญของ นายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีนที่ประกาศ “ความฝันของจีน” คือ การฟื้นฟูชาติจีน ประเทศที่ชาวจีนอยู่ดีกินดีมีความสุข