ใช้สิทธิ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3" รู้วิธีจองโรงแรม-ตั๋วเครื่องบิน ทำแบบนี้

คนไทยเริ่มออกเที่ยวแล้ว! วันที่15 ต.ค.64 เป็นวันแรก ที่ผู้มีสิทธิในโครงการ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3" สามารถเดินทางเข้าพักในโรงแรมที่จองไว้ตามเงื่อนไขของโครงการฯ ซึ่งในครั้งนี้มีเงื่อนไขการจองโรงแรมจะแตกต่างจากครั้งก่อน ใครที่อยากจองโรงแรม/จองตั๋วเครื่องบิน "ลดราคา" ผ่านโครงการฯ ต้องเช็คเงื่อนไขและวิธีจองให้ดี

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนมารู้เงื่อนไข และวิธีการจองโรงแรม/จองตั๋วเครื่องบินใสนโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ให้ชัวร์ๆ ดูตามนี้เลย

 1. เงื่อนไขการจองโรงแรม "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3"

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ในรอบนี้ เริ่มเปิดให้ผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com จองห้องพักโรงแรมแล้วและจะเริ่มให้เข้าพักได้ในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป  ซึ่งการจองโรงแรมในโครงการฯ ครั้งนี้ จะแตกต่างจากเฟส 1 และ 2 เนื่องจากเป็นการเปิดจองผ่านโรงแรมโดยตรงเท่านั้น ไม่ได้ร่วมกับออนไลน์ ทราเวล เอเย่นต์ (OTA) อย่าง Agoda, Traveloka, Booking.com, Expedia ฯลฯ

ส่วนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของผู้เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ยังคงมีให้ครบถ้วนเช่นเดิม นั่นคือ ได้รับการสนับสนุนส่วนลดค่าที่พัก 40% , คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว 600 บาทต่อวัน และเงินส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ต่อที่นั่ง(ให้สิทธิ 2 ที่นั่งต่อ 1 ห้องพักการจองโรงแรม)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• “เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์เที่ยวไทย” เริ่มให้ใช้สิทธิเดินทางจริง 15 ต.ค.64
• เริ่มแล้ว! "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3" จองที่พักได้ 8 ต.ค.นี้ ใช้สิทธิถึง ม.ค.65
• “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” เริ่มจองโรงแรมได้แล้ว เช็คไทม์ไลน์ที่นี่
• "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3" เปิดให้จองสิทธิที่พักลดราคา 40% วันแรก 8 ต.ค.นี้

 

2. ช่องทางการจองโรงแรม/ที่พัก ลดราคา 40%

สำหรับช่องทางการจองโรงแรม/ที่พัก (รัฐช่วยสนับสนุนค่าที่พัก 40%) อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าในรอบนี้ โครงการฯ ไม่ให้จองผ่าน Online Travel Agency (OTA) ดังนั้นการจองที่พักจึงต้องจองโดยตรง ดังนี้

• จองผ่านการโทรศัพท์ติดต่อเบอร์โรงแรมนั้นๆ โดยตรง
• จองผ่าน Website โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ (ถ้ามี)
• เข้าเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com แล้วไปคลิกที่ "ค้นหากิจการ/โรงแรม"
• ช่องทางติดต่ออื่นๆ ที่โรงแรมมี เช่น Line, Facebook, E-mail ฯลฯ

 

3. วิธีการจองโรงแรม/ที่พัก "เราเที่ยวด้วยกัน"

ขั้นตอนการใช้สิทธิ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3" จองที่พัก/โรงแรม ตามเงื่อนไขของโครงการ มีดังนี้

• ติดตั้งแอพฯ "เป๋าตัง" และผูก G-Wallet เพื่อรับสิทธิตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
• จองห้องพักกับที่พัก/โรงแรมโดยตรง ซึ่งจะต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทางเข้าพัก (ไม่สามารถจองที่พัก/โรงแรม ในที่อยู่ในจังหวัดเดียวกับทะเบียนบ้านของผู้จองได้)
• ที่พัก/โรงแรม ทำการตรวจสอบเงื่อนไข และสิทธิคงเหลือโครงการฯ พร้อมส่งลิงก์ ชำระเงินค่าห้องพักให้ผู้จอง
• รับการแจ้งเตือนชำระเงินค่าห้องพัก ซึ่งผู้จองต้องชำระเงินให้สำเร็จภายในเวลา 23.59 น. ของวันที่ได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอพฯ เป๋าตัง (หากเกินกำหนดระบบจะทำการยกเลิกการจองอัตโนมัติ)

 

4. ขั้นตอน "ชำระเงิน" ค่าห้องพักตามเงื่อนไขโครงการฯ 

หลังจากได้รับการแจ้งเตือนชำระค่าห้องพักจากโรงแรม ก็ให้ดำเนินการต่อ ดังนี้

• เข้า G-Wallet กดใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
• เลือกโรงแรมที่ทำการจอง แล้วกดที่ปุ่ม "ตรวจสอบการชำระเงิน"
• ตรวจสอบรายละเอียด กดปุ่ม "ถัดไป" 
• จากนั้นกด "ยืนยัน" การชำระเงิน และใส่รหัส PIN 6 หลัก
• ชำระเงินสำเร็จ

5. ขั้นตอนการเข้าที่พัก และรับคูปอง 600 บาทต่อวัน

เมื่อทำขั้นตอนการจองที่พัก/โรงแรม และชำระเงินทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ให้เตรียมเดินทางเข้าพักในวันและเวลาที่ได้เลือกเอาไว้ได้เลย

เมื่อเดินทางไปถึงยังโรงแรม/ที่พัก และทำการเช็คอิน ณ โรงแรม ก็จะได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว 600 บาทต่อวัน โดยขั้นตอนการรับคูปองมีดังนี้

• ผู้จองสแกน QR เช็คอิน ด้วยแอพฯ "เป๋าตัง"
• โรงแรมหรือที่พักสแกนใบหน้าผู้จองผ่านแอพฯ "ถุงเงิน" 
• รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว มูลค่า 600 บาท จะได้รับหลัง 17.00 น. ของวันเช็คอิน ผ่าน G-Wallet บนแอพฯ เป๋าตัง
• คูปองจะหมดอายุในเวลา 23.59 น. ของวันที่เช็คเอาท์ 

6. เงื่อนไขและวิธีการ "จองตั๋วเครื่องบิน" ลด 40%

นอกจากนี้ ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน รัฐยังช่วยสนับสนุนค่าเดินทางโดยเครื่องบินให้ 40% เช่นกัน โดยเงื่อนไขหลักคือ ประชาชนที่เข้ามากรอกข้อมูลเพื่อรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน จะต้องเป็นผู้ที่จองโรงแรมผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขและวิธีการดังนี้

• ได้รับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 สิทธิผู้โดยสาร ต่อ 1 ห้องโรงแรมที่จอง ทั้งนี้เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 2,000 บาท ต่อผู้โดยสาร (สำหรับการเดินทางไปจังหวัดทั่วไป) หรือไม่เกิน 3,000 บาท ต่อผู้โดยสาร (สำหรับการเดินทางไปยัง ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย)
• ประชาชนต้องจ่ายเงินค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน ณ ตอนจองตั๋วเครื่องบิน และต้องมีการเดินทางในเที่ยวบินนั้นจริง รวมถึง check-in และ check-out ที่โรงแรมที่จองไว้กับโครงการจริง
• ตั๋วเครื่องบินเป็นประเภทไปหรือกลับ หรือทั้งไปและกลับจากจังหวัดที่อยู่ภาคเดียวกันจังหวัดที่จองโรงแรม (กรณีขึ้นลงคนละจังหวัดก็สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในภาคเดียวกันกับจังหวัดที่จองโรงแรม)
• วันที่เดินทางไปหรือกลับ ต้องไม่ห่างจากวัน check-in หรือ check-out ของโรงแรมที่จองผ่านโครงการฯ เช่น ต้องไม่เกิน 5 วัน
• การเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวจะต้องอยู่ภายใน 31 มกราคม 65

-------------------------------

ที่มา : เราเที่ยวด้วยกัน