เจาะกลยุทธ์ ความร่วมมือ “เซ็ปเป้”  ควงพันธมิตร หาช่องโตตลาดเครื่องดื่ม 

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ปี 2564 บริษัทมีการใช้กลยุทธ์ความร่วมมือ(Collaboration)กับพันธมิตรค่อนข้างมากเพื่อสร้างการเติบโตในตลาดเครื่องดื่ม ล่าสุดผนึกแบรนด์ระดับตำนานอย่าง บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด หรือแบรนด์ตะขาบ 5 ตัว ยาสามัญประจำบ้านที่อยู่ในตลาดมานานถึง 86 ปี เพื่อออกเครื่องดื่มสมุนไพรแบบช็อตภายใต้แบรนด์ “เซ็ปเป้ X ตะขาบ”(SAPPE x Takabb” หวังสร้างความแปลกใหม่ และกระตุ้นตลาดเครื่องดื่มโดยเฉพาะหมวดเสริมสุขภาพหรือฟังก์ชั่นนอลดริ้งค์ 

ทั้งนี้ ปี 2564 ตลาดอาหารและเครื่องดื่มยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่อง เมื่อเจาะลึกเครื่องดื่มแต่ละหมวด ฟังก์ชั่นนอลดริ้งค์เป็นหมวดเดียวที่มีการเติบโตได้ดี  ดังนั้น การผนึกกำลังระหว่าง 2 แบรนด์ออกสินค้าใหม่ที่แตกต่างจากคู่แข่ง คาดว่าจะช่วยดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเจนเนอเรชั่นวายและซี(Z)ได้อย่างดี

“เรามองเห็นศักยภาพของแบรนด์ตะขาบ 5 ตัว ที่อยู่มายาวนาน มีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้จุดแข็งและเอกลักษณ์ของยาแก้ไอจากสมุนไพร เมื่อผสานกับเซ็ปเป้ ซึ่งเป็นผู้เครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลดริ้งค์ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มโอกาสขยยายสู่หมวดเครื่องดื่มใหม่ เจาะผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้นจากฐานลูกค้าทั้ง 2 แบรนด์”  

 

นอกจากนี้ บริษัทไม่เพียงมุ่งเจาะลูกค้าชาวไทย แต่บริษัทหวังว่าหากมีการเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามา เครื่องดื่มเซ็ปเป้ X ตะขาบ คาดว่าจะได้รับความนิยมจากชาวจีนอีกครั้งและซื้อเป็นของฝากกลับประเทศไม่ต่างจากยาอมตะขาบ 5 ตัว  ซึ่งจากแผนลุยสินค้าใหม่คาดว่าจะสร้างยอดขายปีแรกที่ 100 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ปี 2564 เซ็ปเป้และแบรนด์ในเครือใช้กลยุทธ์ความร่วมมือกับแบรนด์มากมาย เช่น คาแร็กเตอร์ครูเพ็ญศรี จากเวิร์คพอยท์ ผลิตลูกอม, น้ำมะพร้าวออลโคโค่เป็นส่วนผสมน้ำซุปยูแอน์ไอ พรีเมี่ยม สุกี้ บุฟเฟต์ ฯ และเป็นปีที่สินค้าใหม่ตบเท้าสู่ตลาดจำนวนมาก  

นายสุนทร สิมะวรา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด กล่าวว่า แบรนด์ตะขาบ 5 ตัว อยู่ในธุรกิจยาสมุนไพรแผนโบราณยาวนาน 86 ปี  ที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับตัวพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำตลาดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ ผลักดันการเติบโต รวมถึงยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรแผนโบรา​ณของไทยก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก ซึ่งการมีพันธมิตรอย่างเซ็ปเป้ เป็นจิ๊กซอว์หนึ่งในการสานเป้าหมายดังกล่าว  

สำหรับตลาดผลิตภัณธ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมสมุนไพรบริโภคในประเทศและส่งออกมีมูลค่าราว 80,000 ล้านบาท โดยสมุนไพรยอดนิยม ได้แก่ ไพล กระชายดำ ขมิ้นชัน ใบบัวบก