เอฟทีซีสั่ง'7-Eleven'ในสหรัฐขายสาขาเกือบ 300 แห่ง

เอฟทีซีสั่ง'7-Eleven'ในสหรัฐขายสาขาเกือบ 300 แห่ง

เอฟทีซีสั่ง‘7-Eleven’ในสหรัฐขายสาขาเกือบ 300 แห่ง หวังป้องกันการผูกขาดตลาด

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า คณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐ (เอฟทีซี) มีคำสั่งให้ “7-Eleven” ในสหรัฐขายสาขาเกือบ 300 แห่ง หลังจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่แห่งนี้เพิ่งทุ่มเงินลงทุน 21,000 ล้านดอลลาร์ เข้าซื้อกิจการสปีดเวย์ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อและสถานีบริการน้ำมัน จากบริษัทมาราธอน ปิโตรเลียม

คำสั่งของเอฟทีซี มีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทมาราธอน ปิโตรเลียม ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายสปีดเวย์ และ 7-Eleven ที่มีเซเว่นแอนด์ไอ โฮลดิ้งส์(Seven & I Holdings Co Ltd) บริษัทสัญญาชาติญี่ปุ่นเป็นเจ้าของ ใกล้บรรลุข้อตกลงซื้อขายกิจการมูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงธุรกิจร้านสะดวกซื้อจำนวน 3,800 สาขาใน 36 รัฐ

เจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนในเอฟทีซีระบุว่า คำสั่งนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันการผูกขาดทางการค้า หลังจากมีเสียงเรียกร้องจากธุรกิจน้ำมันเบนซินและดีเซลว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดน้ำมัน 293 แห่งใน 20 รัฐของสหรัฐ

ทั้งนี้ เอฟทีซี บังคับให้ 7-Eleven และบริษัทมาราธอน ปิโตรเลียมขายร้านสะดวกซื้อและสถานีบริการน้ำมันให้แก่บริษัทคู่แข่ง 293 สาขา ที่ประกอบด้วย อานาบี ออย 124 แห่ง ครอสส์ อเมริกา พาร์ทเนอร์ส 106 แห่งและแจ็ควัน ฟู้ด สโตร์ส 63 แห่ง