‘สุกี้โคคา’ ตำนานสุกี้เมืองไทยในวัย 64 ปี กับเส้นทางธุรกิจ 400 ล้าน

‘สุกี้โคคา’ ตำนานสุกี้เมืองไทยในวัย 64 ปี กับเส้นทางธุรกิจ 400 ล้าน

ทำความรู้จัก "สุกี้โคคา" ตำนานสุกี้เมืองไทยในวัย 64 ปี กับเส้นทางธุรกิจ 400 ล้าน ที่วันนี้ไม่ได้มีแค่ "สุกี้" เท่านั้น แต่ยังแตกแบรนด์สู่ธุรกิจอาหารอื่นๆ ด้วย

สุกี้โคคาหรือ COCA Restaurant แม้วันนี้ สาขาสยามสแควร์ จะหลงเหลือเป็นเพียงตำนานที่บอกเล่ากันจากรุ่นสู่รุ่น หลังเปิดให้บริการแล้วเกินค่อนชีวิตกว่า 54 ปี และต้องปิดตัวลงเนื่องด้วยวิกฤติโควิด-19 ที่รุมเร้าภาคธุรกิจร้านอาหารของไทยมายาวนานเกิน 1 ปี

แต่แม้สุกี้โคคาจะต้องลดสาขาลงไป 1 สาขา แต่ปัจจุบันก็ยังมีสาขาอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่ "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ขอชวนย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของ "โคคา" หนึ่งใน "ตำนานสุกี้" ที่ยังยืนหยัดบนสมรภูมิหม้อไฟในประเทศไทย

   

  • ย้อนตำนาน "โคคาสุกี้"

หากย้อนกลับไปเมื่อราวปี 2500 หรือ 64 ปีก่อน COCA หรือ "โคคา" เริ่มต้นจากร้านอาหารจีนกวางตุ้ง ร้านไม่ได้ใหญ่โตมากนัก มีขนาดราว 20 ที่นั่ง ที่ก่อตั้งโดยศรีชัย-ปัทมา พันธุ์เพ็ญโสภณธุรกิจดำเนินการมาเรื่อยๆ ภัตตาคารจีนแห่งนี้เติบโตขึ้น และย้ายจากถนนเดโช ไปตั้งอยู่ที่ซอยทานตะวัน ถนนสุรวงศ์ จนกระทั่งปัจจุบันกิจการขยายใหญ่มีขนาด 800 ที่นั่ง 

162140405583

ชื่อเสียงเรียงนามของ COCA โด่งดังเป็นที่รู้จัก จากการที่เป็นภัตตาคารแห่งแรกที่นำการปรุงอาหารแบบสุกี้เข้ามาเผยแพร่ในไทย และด้วยรสชาติที่โดดเด่น รวมถึงจุดเด่นที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบในการปรุงสุกี้ได้หลากหลายตามความต้องการแบบสุกี้ A La Carte ด้วยการเสิร์ฟแยกเป็นจานเล็กๆ แทนชุดใหญ่แบบดั้งเดิม ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ครองใจลูกค้าได้อย่างดี 

162141451941

เรื่องที่เกี่ยวข้อง :  ตำนานสุกี้ ‘โคคา' ผ่าเบื้องหลังความอร่อย สู่อนาคตในมือทายาทรุ่น 3

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งกลยุทธ์ นั่นคือชื่อร้าน COCA ที่สั้น กระชับ และจดจำง่าย โดยคำว่า COCA หมายถึงความอร่อย ที่แปลงมากจากภาษาจีนกลางที่ออกเสียงว่า เคอโคว์ (Kekou) และจากสำเนียงแบบกวางตุ้งที่ออกเสียงว่า หอเห่า (HouHào) เมื่อรวมความหมายแล้วจะแปลว่า ความอร่อยที่น่ารับประทาน นั่นเอง 

    

  • COCA ในอุ้งมือ "พิทยา พันธุ์เพ็ญโสภณ" ทายาทรุ่น 2

หลังจากเปิดให้บริการไปราว 27 ปี COCA ถูกส่งไม้ต่อให้พิทยา พันธุ์เพ็ญโสภณลูกชายของศรีชัย และปัทมา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ไได้นำพาธุรกิจครอบครัว เข้าสู่การบริการแบบบริษัทจดทะเบียน ภายใต้ชื่อ บริษัท โคคา โฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (COCA Holdings International Co., Ltd) เพื่อให้การบริหารเป็นระบบมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน เช่น สุขุมวิท 39 ไทม์สแควร์ เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า พหลโยธิน สยามเซ็นเตอร์ และชายหาดพัทยา และปัจจุบันมีอีกสาขาอยู่ที่เมกาบางนา

เวลาผ่านไป 3 ปี ในปี 2530 “พิทยาทายาทรุ่นที่ 2 พาสุกี้โคคาโกอินเตอร์บินข้ามประเทศไปเปิดสาขาแรกที่สิงคโปร์ ตามด้วยญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน ลาว เมียนมา เกาหลีใต้ และจีน 

ด้วยแนวคิดการพัฒนาที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง วันนี้หากใครเคยเข้าไปอุดหนุนเป็นลูกค้าสุกี้โคคา จะเห็นว่าไม่ได้มีแค่เมนูสุกี้เท่านั้น เพราะในภัตตาคารแห่งนี้ยังมีอาหารหลากเมนู ไม่ว่าจะเป็น เป็ดปักกิ่งโคคา บะหมี่เนื้อเปื่อยฮ่องกง นกพิราบทอด ปาท่องโก๋โคคา รวมถึงยังมีเมนูติ่มซำต้นตำรับสไตล์ฮ่องกงที่ได้เชฟฝีมือดีจากฮ่องกงมาประจำที่ร้านอีกด้วย 

162140419595

  • อาณาจักรใต้ร่ม "โคคา" 

นอกจากนี้ COCA ยังแตกแบรนด์อื่นๆ อีก ทั้งแม็งโกทรี (Mango Tree) ร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ที่เริ่มตั้งต้นสาขาแรกที่ถนนสุรวงศ์ และมีการขยายสาขาที่เน้นความเป็นไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ทั้งรูปแบบภัตตาคารแม็งโกทรี (Mango Tree restaurants) ที่ให้บริการอาหารเต็มรูปแบบ, 

แม็งโกทรี คาเฟ่ (Mango Tree Cafe) และแม็งโกทรี บิสโทร (Mango Tree Bistro) เป็นบาร์และร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่ให้บริการอาหารและเป็นแหล่งสังสรร, แม็งโกทรี คิทเช่น (Mango Tree Kitchen) และแม็งโกทรี แกร็บ แอนด์ โก (Mango Tree Grab & Go) เป็นการให้บริการอาหารนอกสถานที่รองรับกลุ่มเดินทาง เช่น สนามบิน สถานีรถไฟ ฯลฯ 

โดยเมื่อปี 2562 แม็งโกทรีมีการขยายสาขาไปแล้วกว่า 45 แห่งทั่วโลก ตั้งอยู่ในประเทศไทย 6 แห่ง และต่างประเทศอีก 39 แห่ง พร้อมทั้งยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนสาขาสองเท่าตัวเป็น 100 สาขา ภายในปี 2568

นอกจากนี้ COCA ยังได้เข้าไปเข้าบริหารร้านอาหารใน RBSC Pavolion ราชกรีฑาสโมสร เป็นร้านอาหารไทยต้นตำรับและอาหารฟิวชั่น 

ขณะเดียวกันปี 2539 พิทยายังต่อยอด COCA สู่โคคาฟู้ดส์ภายใต้บริษัท โคคา ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นการผลิตอาหารแช่แข็งและอาหารแปรรูปขาย ทั้งโปรดักส์เนื้อและลูกชิ้น เส้นบะหมี่ ติ่มซำ เกี๊ยวซ่า รวมถึงซอสสูตรต่างๆ อีกทั้งยังลุยธุรกิจ OEM ด้วย 

    

  • เปิดรายได้อาณาจักร COCA 

162140450833

วันนี้จะเห็นว่าสุกี้โคคายังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากกางบัญชี 2 บริษัทหลัก มีรายละเอียดดังนี้

  • บริษัท โคคา โฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจหลักภัตตาคาร มีทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท 

- ปี 2562 มีรายได้รวมกว่า 376 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 14.65% ที่ทำรายได้ไป 441 ล้านบาท
- ในแง่ของกำไร(ขาดทุน) สุทธินั้น ปี 2562 มีผลขาดทุนที่ 4.5 ล้านบาท จากปีก่อนหน้า คือ 2561 ทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.8 ล้านบาท 

  • บริษัท โคคา ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจผลิตอาหารแช่แข็งและแปรรูป จดทะเบียนเมื่อปี 2537 ด้วยทุนจดทะเบียน 165 ล้านบาท

- ปี 2562 มีรายได้รวมกว่า 98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 7.54% ที่ทำรายได้ไป 91.54 ล้านบาท
- ในแง่ของกำไร (ขาดทุน) สุทธินั้น ปี 2562 ทำกำไรสุทธิไป 2.75 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.2 ล้านบาท 

162140726039

  • เมื่อภัตตาคารขนาดใหญ่ไม่ตอบโจทย์ COCA จะปรับอย่างไร?

วันนี้เป็นที่น่าจับตาว่าก้าวต่อไปของโคคากรุ๊ปที่ก้าวสู่วัย 64 นั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป "นัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ ทายาทรุ่นที่ 3 บอกเล่ากับ "กรุงเทพธุรกิจ" ถึงความเป็นสุกี้โคคาว่า ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ การที่เราไม่ short cut อาหาร ใช้ผักออร์แกนิคจากฟาร์มที่เราปลูกเอง เนื้อสัตว์ปลอดสารพิษ ใช้น้ำมันรำข้าวทอดทุกอย่างที่เป็นอาหารทอดในร้าน ใช้ข้าวจากชาวนารุ่นใหม่ที่ไม่ใช้สารเคมี เพราะเราเชื่ออย่างเดียวว่าอาหารที่ดีและอร่อยต้องมาจากวัตถุดิบที่ดีเท่านั้น เพราะหัวใจตรงนั้นทำให้เรามีวันนี้ 

พร้อมวางภาพอนาคตไว้ว่า Business Model จะเริ่มขยายธุรกิจออกจากใจกลางเมืองมากขึ้น มองพื้นที่อื่นๆ เช่น แถวราชพฤกษ์ แถบปริมณฑล หรือหัวเมืองใหญ่ๆ ในต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น บุรีรัมย์ ฯลฯ

นัฐธารีมองว่า นับจากนี้ไปการทำธุรกิจควรย่อ Size ลงมา ภัตตาคารใหญ่ๆ 300-400 ที่นั่งไม่ควรทำ นั่งได้ 60-100 คน ต้องปรับเป็นเดลิเวอรี่มากขึ้น นี่คือสิ่งที่จะทำให้ร้านอาหารสมัยนี้รอด อย่างเช่นขณะนี้ได้เริ่มทดลองทำ โคคาป๊อปอัพ ที่หัวหิน และกรุงเทพกรีฑา รวมทั้งยังมองธุรกิจ Food Truck ด้วย เนื่องจากปัจจุบันต้องมองมุมใหม่ว่าคนออกมาร้านอาหารไม่ได้ ทำอย่างไรที่อาหารจะเดินทางไปหาลูกค้าที่บ้าน 

162140731492

นอกจากนี้กำลังพัฒนา "น้ำจิ้มสุกี้" สูตรพิเศษเผ็ดร้อน โดยบ่มจากพริก 30 ชนิด เนื่องจากเรียนมาทางด้านโภชนาการและวิทยาศาสตร์การอาหาร (Food Science) จากมหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจลอนดอน (King’s College London) จึงคิดค้นสูตรที่มีซอสตัวเดียวจบ ไม่ต้องเติมพริกขี้หนู กระเทียม มะนาว ให้ยุ่งยาก

วันนี้แม้ COCA จะมีการปรับเปลี่ยนและปิดบางสาขาลงไป แต่ความเติบโตยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และนับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตาไม่น้อย

ที่มา : cocadbd,